วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วินาทีแรกที่รู้ว่าตั้งท้อง

วินาทีแรกที่รู้ว่าตั้งท้อง ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองคือ "ลูกฉันต้องมีชีวิตที่ดีกว่าฉันแน่นอน" 



ฉันเกิดมาในครอบครัวยากจน กินข้าวกับน้ำปลาก็ผ่านมาแล้ว ขนมหวานของโปรดคือน้ำตาลก้อน เรียนโรงเรียนวัด เข้าแกงค์ลักขโมย เพื่อนสนิทสมัยประถมมีลูกตั้งแต่จบ ป.6 น้อยคนที่จะสนใจเรียนต่อ แต่ฉันโชคดีที่มียายคอยพร่ำสอนให้รู้จักชั่วดี ให้เห็นความสำคัญของการเรีย

พอโตหน่อยก็ต้องหาเงินเอง งานแรกที่ทำคือเด็กเสริฟในร้านอาหารตอนนั้นอายุ 13 ปี พอเข้ามหาลัยก็ไม่เคยขอเงินที่บ้านสักบาท ค่าเทอมกู้กยศเอา มีทุนการศึกษาที่ไหนก็ไปแข่งขันเอามาจนได้ ทำงานหาค่าใช้จ่ายเอง ฉันเคยทำงานพาทไทม์ใน บ.ที่เปิด 24 ชม. บางวันเข้ากะดึกเลิกงาน 7 โมงเช้า 8 โมงมีเรียนต่อ ฉันก็สู้ไม่ถอย

ตอนเรียนฉันเรียนนาฏศิลป์แต่อีกใจก็ชอบภาษาอังกฤษมากๆ พอได้ข่าวที่ไหนมีสอนภาษาฟรีก็หอบสังขารไปนั่งเรียนตลอด เพราะไม่มีเงินไปเรียนพิเศษ มีครั้งหนึ่งโหดสุดที่ม.รามคำแหงกับกระทรวงแรงงานเปิดอบรมฟรี ส-อ เรียน 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น เป็นเวลา 3 เดือน ฉันเลิกงาน 7 โมงเช้าก็ไปนั่งเรียนต่อตอน 8 โมง พอ 5 โมงเย็นเลิกเรียนก็ไปทำงานต่อตอน 1 ทุ่มยัน 7 โมงเช้าของอีกวัน ด้วยความที่ใจรักลำบากแค่ไหนก็ทน พอเรียนจบฉันก็ได้ทำงานกับ บ.ขนส่งทางอากาศขนาดใหญ่ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นตัวทำให้ฉันได้งานนั้นนั่นเอง

ฉันใฝ่ฝันอยากเรียนโน่น อยากเรียนนี่ ด้วยความที่กำลังทรัพย์ไม่มีจึงทำให้ขาดโอกาสหลายๆอย่าง ฉันไม่เคยโทษครอบครัวเลย ในทางตรงกันข้ามฉันรู้สึกขอบคุณโชคชะตาแย่ๆอยู่ลึกๆ เพราะถ้าฉันมีทุกอย่างพร้อมในวัยเด็ก ฉันก็จะไม่เติบโตเป็นฉันในวันนี้

จากประสบการณ์ที่ฉันได้เจอมา.......
ฉันจะเอามันมาสอนให้ลูกรู้จักผิดชอบชั่วดี มีจุดยืนไม่ตามใคร
ฉันจะสอนให้ลูกรู้จักค่าของเงินให้ลูกทำงานหาเงินตั้งแต่อายุน้อยๆ
ฉันจะส่งเสริมทุกอย่างที่ลูกสนใจศึกษาเพื่อให้เค้าสามารถเลี้ยงชีพด้วยสิ่งที่เค้ารักได้
ฉันจะสอนให้เค้าภูมิใจในสิ่งที่เค้ามีและสิ่งที่เค้าเป็น
เพราะฉันอยากให้ลูกฉันมีความสุขเหมือนฉัน ณ ตอนนี้เอง

ปล. เพ้อๆ ก่อนเย็บผ้า kiki emoticon
heart emoticon แม่ปราง & น้องเอฟลีน


ติดตามชีวิต แม่ปราง & น้องเอฟลีนได้ที่ https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife?fref=photo

ไปเรียนเย็บผ้าดีไหม หรือจะเรียนด้วยตัวเองดี

ช่วงนี้มีคนถามบ่อยว่าปรางไปหัดเรียนเย็บผ้ามาจากไหน จะตอบไว้หน้าเพจเลยแล้วกันเพื่อใครที่กำลังจะถามอยู่นะคะ


1. เริ่มหัดเย็บผ้าครั้งแรกหัดจากยูทูปค่ะ เป็นวิธีที่เข้าใจง่ายมากที่สุดแต่ควรค้นหาเป็นภาษาอังกฤษเพราะต่างชาติเค้าชอบงานแฮนด์เมด DIY มาก จึงมีคนเอามาลงวิธีทำ มีให้เราค้นหาทุกสิ่งอย่าง

2. พอเริ่มเป็นงานจึงซื้อหนังสือมาอ่านเพิ่มเติม แต่จริงๆแล้วในอินเตอร์เน็ทมีไว้หมดแล้วแค่ต้องหาให้ตรงจุดหน่อย หนังสือที่ปรางชอบมากที่สุดคือ 3 เล่มนี้ 
- Dressmaking เป็นภาษาอังกฤษหมดก็จริง ปรางเองก็อ่านไม่ออกทุกคำหรอกค่ะ แต่เค้ามีรูปถ่ายที่ละขั้นตอนอย่างละเอียดมากๆ เนื้อหาครบจักรวาลมีตั้งแต่หัดเย็บมือยันเข้าแขน เข้าปกเสื้อ หาซื้อได้ตามร้านหนังสือภาษาอังกฤษทั่วไป
- ส่วนภาษาไทยปรางมีอีก 2 เล่มแต่ไม่ขอเอ่ยนามข้อมูลเก่า และอธิบายเข้าใจยากถ้าคนไม่มีพื้นฐานไปต่อเองไม่ถูกค่ะ ที่ถูกใจคือสองเล่มนี้ มีการลงเทคนิคต่างๆไว้เข้าใจง่าย ราคาถูก ปรางซื้อมาจากซีเอ็ดค่ะ

3. โรงเรียนสอนตัดเย็บค่ะเคยไปลงเรียนมาสามที่ ที่แรกเละไม่เป็นท่าเพราะเห็นแก่ของถูก โรงเรียนที่สอนหลักสูตรเก่ามากชุดที่ตัดออกมาเหมือนแฟชั่น 30 ปีที่แล้ว ตัดสินใจเลิกไปเพราะถามผู้สอนว่า กลับไส้ไก่อย่างไง ผู้สอนตอบว่า "สอนไม่ได้ ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคใครเทคนิคมัน" สรุปแล้วเราจ่ายเงินไปเรียนทำไมถ้าสอนไม่ได้ เซ็งไปเป็นเดือนค่ะ
พอมาโรงเรียนที่สอง ครูดีมาก สอนดี แพทเทรินสวย แต่เค้าจะสอนตามหนังสือเป๊ะ บางที่เราถามอะไรที่สงสัยเกินบทเรียน ก็ให้เรารอลงเรียนคอสต่อไป ปรางจึงขอเรียนแค่คอสพื้นฐานค่ะ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราเป็นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ได้เพิ่มติดตัวมาคือการทำแพทเทริน เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย
ที่สามเป็นคอสเรียนตัดชุดว่ายน้ำค่ะ ราคาโหดมาก ถ้าเทียบกลับสิ่งที่ได้มาไม่คุ้มค่ะ เซ็งต่อไปอีกค่ะ
หากเพื่อนๆสนใจจะไปลงคอสเรียนก็ลองค้นหาความชอบของตนเองดูก่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเวลา เสียเงิน มีเพื่อนร่วมห้องปรางหลายคนเรียนไม่จบเพราะเบื่อกลางคัน และค้นประวัติโรงเรียนด้วยนะเดี๋ยวเสียเที่ยวแบบปราง 55+

ถ้าใครชอบเย็บผ้าจริงๆและไม่ได้คิดจะทำเป็นอาชีพ ปรางยังคงคิดว่าการศึกษาด้วยตัวเองเป็นอะไรที่ดีที่สุด ประหยัดสุด และจะจำได้ดีที่สุดค่ะ แต่ถ้ามีงบ มีเวลาก็ไปลงเรียน ถ้าใจรักครูสอนแป๊บเดียวก็ได้ค่ะ

ส่วนตัวถ้าย้อนกลับไปได้จะไปเรียนแค่ทำแพทเทรินพื้นฐานพอ (ที่พูดแบบนี้เพราะไปลงเรียนตอนที่เย็บเป็นแล้ว) ทำแพทเทรินทีต้องมีเครื่องคิดเลขนะ ลบโน่น บวกนี่ตัวเลขมันเยอะ ดูวิดีโออย่างเดียวไม่เข้าใจเพราะเป็นคนมีปัญหากับวิชาตัวเลข แต่ถ้าการเย็บละก็ขอตอบเหมือนเดิมยูทูปเลิศสุดค่ะ!

สุดท้ายจะบอกว่า...ข้างบนที่เขียนมานี่ความเห็นส่วนตัวนะอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกใจใช้ได้กับทุกคน ใครมีอะไรสงสัยก็ ib https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife  มานะ ยินดีตอบคำถาม อาจจะตอบช้าแต่ตอบแน่นอนค่ะ kiki emoticon

วันอังคารที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2557

เค้กหม้หุงข้าว ตอน : Cranberry bliss bars


คริสมาสใกล้เข้ามาแล้วนะค่ะ วันนี้ปรางขอเสนอเมนูเค้กรับเทศกาลซะหน่อย เค้กตัวนี้ได้กินครั้งแรกที่สตาบัค คือ ชอบมากๆ ไปกับสามีก็จะสั่งกินกันคนละชิ้น ซึ่งชิ้นหนึ่งราคาก็ได้อยู่นะ เลยตัดสินหาสูตรทำเองเพื่อลดรายจ่าย แต่เพิ่มความอ้วนให้กับตัวเองอ่ะนะ 55+

องผิดลองถูกมาพักหนึ่ง เพราะเค้กที่เค้าทำส่วนใหญ่จะหวานมาก น้ำตาลในสูตรปรางลดลงจากที่เอามาเป็นถ้วยๆเลยค่ะ อันนี้ก็แล้วความชอบนะ

ลูกสาวนอนให้กำลังใจ อิอิ

เอาล่ะมาต่อกันด้วยวัตถุดิบเลยดีกว่า
ตัวเค้ก
1. เนยเค็ม ครึ่งก้อน
2. น้ำตาลทรายแดง 3/4 ถ้วย
3. ไข่ฟองใหญ่ 2 ฟอง
4. แป้งเอนกประสงค์ 2 ถ้วย
5. ผงฟู 1 1/2 ช้อนชา
6. เกลือ 1/4 ช้อนชา
7. ผงชินาม่อน (อบเชย) 1 ช้อนชา
8. ช็อกโกแลตขาวสำหรับทำขนม 3 ช้อนโต๊ะ
9. แครนเบอรรี่อบแห้งสับหยาบ 3 ช้อนโต๊ะ
10. กลิ่นวนิลา 1/2 ช้อนชา

หน้าเค้ก (frosting)
1. ครีมชีส 1 ก้อน
2. น้ำตาลไอซ์ซิ่ง 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
1. ละลายเนยในไมโครเวฟ 30 นาที เทน้ำตาลทรายแดงขนให้เข้ากัน
2. ไข่+วนิลาตีให้เข้าดัน และนำไปผสมกับของแห้งทั้งหมดตีรวมกัน+เนยที่ตีกับน้ำตาลทรายแดงแล้ว ชิมดูว่าหวานพอดีไหมถ้าไม่ค่อยเพิ่มน้ำตาล
3. ทาเนยให้รอบหม้อหุงข้าว เทส่วนผสมทั้งหมดลงไป กดปุ่มหุงเค้กรอ 40 นาทีก็จะได้เค้ก
4. ทาหน้าเค้กด้วย frosting ตกแต่งด้วยแครนเบอรี่ และช็อกโกแลตขาวตามชอบ
เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ ใครทำแล้วชอบไม่ชอบมาแนะนำกันได้นะค่ะ  


cranberry bliss bars

ยืมรูปมาจาก Pinterest ค่ะ


เข้าไปเยียมชมเฟสบุค งานฝีมือของปรางได้ที่เพคนี้นะค่ะ  https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife?ref=hl

วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

ชีวิตแม่ลูกอ่อน ตอน ภารกิจนมแม่

ห่างหายจากการอัพเดทไปนาน กลับมาคราวนี้ปรางกลายเป็นคุณแม่เต็มตัวแล้วค่ะ เพิ่งคลอดน้องเอฟลีน(น้องเกิดวันที่ 3 ก.ย. 2557) ตั้งแต่คลอดน้องมาก็ไม่เคยได้หยุดเคลื่อนไหวร่างกายเลยค่ะ จนพยาบาลคิดว่าเคยมีลูกมาก่อน 55+

love
พ่อลูกขี้เซา

วันที่คลอดเสร็จก็ขอเอาน้องไว้เลี้ยงเองเลย เพราะอยากให้ลูกผูกสัมพันธ์กับแม่ ได้กินนมแม่ แต่ไม่ทันแล้วค่ะ พอคลอดออกมาพยาบาลได้จัดการป้อนนมผสมให้เอฟลีนไปเป็นที่เรียบร้อย โดยให้เหตุผลว่านมผสมจะป้องกันให้น้ำตาลในเลือดลูกไม่ต่ำ ???????????????????????

ปรางตั้งใจให้เอฟลีนทานนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน และจะให้ทานนานถึง 18 เดือน ส่วนนมผสมที่พยาบาลให้ไปแล้วก็แล้วไป ปรางไม่อยากเถียงกับพยาบาลเรื่องสรรพคุณอันเลอค่าของนมผสมเลยบอกเค้าว่าเอาขวดมาเดี๋ยวป้อนเอง พยาบาลก็ทำตามปรางก็แอบเอานมผสมไปเททิ้งห้องน้ำค่ะ

คลอดลูกวันแรกน้ำนมจะยังไม่มา ซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ แต่คุณแม่บางคนอาจจะกังวลว่าลูกจะหิวเลยต้องป้อนนมผสมไปก่อน ปรางได้ศึกษาข้อมูลนมแม่มาพอสมควร ก็พอรู้ว่าด็กเกิดใหม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องทานนมเป็นเวลาถึง 2 วันค่ะ เพราะร่างกายเด็กจะเก็บสะสมพลังงานนี่ไว้ก่อนที่น้องจะออกมาเจอโลกภายนอกค่ะ

เมื่อคุณแม่มีความตั้งใจให้นมแม่อย่างเดียวอย่างแรงกล้า ปัญหานมไม่มาจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ บางคนโชคดีคลอดปุ๊บนมมาปั๊บ แต่ของปรางใช้เวลาถึง 4 วันเต็มๆค่ะ! ก่อนหน้านั้นเอฟลีนได้แต่ดูดเต้าเปล่าไปพลางๆๆ

เอาละจะเล่าประสบการณ์ภารกิจกู้น้ำนมของปรางให้อ่านกันนะค่ะ

3 ก.ย. 57
เวลา 16.21 น. เอฟลีนลืมตาดูโลกครั้งแรก พยาบาลทำความสะอาดตัวน้องแล้วนำมาให้ดู พร้อมกับให้น้องลองดูดนม ครั้งแรกล้มไม่เป็นท่าครั้งค่ะ เอฟลีนสะบัดหนีอย่างแรง

เวลา 20.00 น.  พยาบาลเอาน้องมาส่งที่ห้องพักพร้อมกับขวดนมผสม 2 ออนซ์ กับ น้ำเปล่าอีกขวด ปรางบอกพยาบาลว่าจะให้นมเอง พยาบาลก็ลองใหเอาน้องเข้าเต้า สรุป.........น้องไม่ยอมดูดค่ะ พยาบาลเลยจับดูดขวดให้ดู สรุป...........เอฟลีนดูดขวดอย่างเอร็ดอร่อย อิแม่แอบเคืองค่ะ

10.00 น. เป็นต้นไปยันหมดคืน อิแม่แม้จะหมดแรงตั้งแต่การเบ่ง แต่ยังไม่ละความพยายาม จับเอฟลีนดูดเต้าเปล่าๆทั้งคืนค่ะ นมไม่ออกสักหยด

4 ก.ย. 57 
เวลา 05.00 น. พยาบาลมารับน้องไปอาบน้ำ (แอบทิ้งนมของเมื่อคืนไปแล้ว) บอกว่าจะเอาน้องมาส่งตอน 8.00 น. พอถึงเวลาก็เอาน้องมาส่งแล้วสั่งว่าอีก 3 ชม.ค่อยป้อนนมนะค่ะ เพราะเพิ่งให้นมผสมไป  T_T

วันนั้นทั้งวันปรางก็ให้ลูกดูดนมทุกๆชม. แต่เอฟลีนก็ได้แต่ดูดเต้าเปล่าค่ะ ไม่มีนมสักหยดออกมา เริ่มสงสารลูก สุดท้ายปรึกษาสามีก็ยอมให้น้องกินนมผสมไป 2 ออนซ์

ปัญหานมไม่มียังไม่จบ ปัญหาหัวนมแตกมาต่อค่ะ แตกชนิดเลือดออกเลยค่ะ ลูกดูดทีน้ำตาไหลแต่ก็ต้องกลั้นใจให้ดูดไปเรื่อยๆเพื่อกระตุ้นน้ำนม

5 ก.ย. 57
เวลา 05.00 น ตอนเช้าพยาบาลพาน้องไปอาบน้ำก็คงป้อนนมผสมตามเคย

เวลา 12.00 น. ออกจากโรงพยาบาล พยาบาลให้ขวดนมที่ใส่น้ำเปล่ามาหนึ่งขวด วันนั้นปรางก็แบกลูกไปสถานที่ราชการต่างๆเพื่อทำสูติบัตรและเบิกเงินประกันสังคม เอฟลีนนอนยาว 4 ชม.ไม่ได้กินนมทั้งวัน

เวลา 19.00 น. เอฟลีนมีอาการหิวอย่างเห็นได้ชัด ร้องไม่หยุด แม่เริ่มเครียดตัดสินใจเปิดกระป๋องนม เอส26 ที่โรงพยาบาลให้มาแล้ว ............ต้มขวดนม...........ต้มน้ำร้อน............ชงนม............แล้ววางไว้บนหัวเตียง............สุดท้ายก็จับเข้าเต้าตัวเอง ให้เอฟลีนดูดนมหลอกๆไปทั้งคืน

6 ก.ย. 57
เวลา 08.00 น. เริ่มมีนมซึมออกมานิดหน่อย ดีใจมากกกกกกกกกกกกกกก  รีบให้เอฟลีนดูดแต่ก็ไม่มีทีท่าว่านมจะเยอะขึ้นแต่อย่างไร สุดท้ายเอฟลีนก็ต้องดูดนมหลอกๆไปทั้งวัน

เวลา 17.00 น. พี่สาวกลัวหลานจะอดตาย จัดไก่ผัดขิง ฝักทองผัดไข่ ฝักทองนึ่งให้กิน กลั้นใจกินค่ะเพราะเป็นอาหารที่ไม่ชอบเลยสักอย่าง

เวลา 22.00 น. เริ่มมีการปวดนม รีบเอาที่ปั๊มมาปั๊ม นมไม่ออกค่ะแต่ปวดจี๊ดจนน้ำตาไหล สรุปนมก็มาแค่ซึมๆ อิแม่เริ่มเครียดลูกไม่ฉี่ ไม่อึ

7 ก.ย. 57  
เวลา 10.00 น. พาน้องไปหาหมอตรวจภาวะตัวเหลือง ปรางปรึกษาหมอว่าตั้งแต่กลับบ้านไปน้องฉี่ อึวันละครั้งเอง หมอบอกต้องเพิ่มนมค่ะ  T_T

เวลา 14.00 น. กลับมาบ้านสงสารลูกมากๆ  แต่ก็ยังไม่คิดจะให้นมผสม กลั้นใจจับลูกเข้าเต้า และแล้ว................ บุญเก่าของแม่หรือบุญใหม่ของลูกก้ไม่รู้ค่ะ ทำให้น้ำนมมา

8 ก.ย. 57  
เวลา 00.00 น. ตื่นนอนกลางดึกเพราะเสื้อเปียกเพราะน้ำนมพุ่งค่ะ เรียกสามีมาดู ดีใจกันมากยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 ลูกฉันจะมีนมกินแล้วววววววววววววววววว

.....................................................................................................



ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาน้ำนมมาเยอะมากค่ะ ยืนอาบน้ำยังไหลเหมือนแม่วัวนม นอนยังต้องใส่แผ่นซับน้ำนม 10 นาทีปั๊มได้เต็มขวด

อาการหัวนมแตกก็เริ่มหายไปค่ะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหมนะ ปรางเอาน้ำนมที่ไหลออกมานั่นแหละนวดๆ คลึงๆหัวนม แผลหายเร็วมากๆ

จากประสบการณ์ตรงที่เจอมาเลยอยากบอกเพื่อนๆว่า  "น้ำนมแม่เป็นกลไกธรรมชาติดังนั้นอย่าได้กังวล ต้องอดทน ต้องใจแข็ง เพื่อสุขภาของลูกในอนาคตค่ะ"








วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2557

หัดเย็บผ้าด้วยตัวเอง ตอนที่ 1 : อุปกรณ์เย็บผ้าพื้นฐาน

คำถามยอดฮิตจากเพจ  https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife ช่วงนี้แม่ปรางมีเพื่อนใหม่ในเฟสบุคเยอะเลยค่ะ

บทความนี้แม่ปรางตั้งใจเขียนให้เพื่อนๆ คุณแม่ทุกคนที่ตั้งใจอยากเย็บเสื้อผ้าให้ลูกน้อยไว้ใส่เอง ชุดบางชุดอาจไม่ได้เป็นการประหยัดมากนักเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อตามท้องตลาด แต่สิ่งที่แตกต่างตือความภูมิใจค่ะ ภูมิใจที่เราเย็บออกมาเป็นชิ้นได้ ภูมิเมื่อได้เห็นลูกใส่ และภูมิใจเมื่อมีคนถามว่าซื้อที่ไหน 5555+


ก่อนอื่นขอบอกไว้เลยนะค่ะ การเย็บผ้าให้เป็นไม่ยากค่ะ แต่การเย็บผ้าให้สวยนี่ยากค่ะ ไม่ใช่แค่พรสวรรค์ความตั้งใจมีส่วนอย่างมากค่ะ แม่ปรางเป็นคนหนึ่งที่ความอดทนไม่ค่อยสูง มักชอบลักไก่เวลาเย็บ ก็มีย่นบ้างไรบ้าง

บางครั้งทำเสร็จออกมาแล้วผิด ขี้เกียจก็ปล่อยมันไป แต่พอกลับมาดูแล้วทำใจไม่ได้ ก็ต้องรื้อใหม่หมด ดังนั้นเชื่อปรางเถอะค่ะ อย่าทำอะไรด้วยความขี้เกียจ เพราะสุดท้ายเราเสียเวลาต้องทำมันอีกครั้ง คำนี้คุณแม่ของปรางสอนมา จำขึ้นใจแต่ไม่ค่อยทำตาม 555+

เอาล่ะค่ะมาเริ่มตอนแรกกันเลยดีกว่าค่ะ อุปกรณ์ที่ใช้ ทั้งหมดนี่ของปรางเองนะค่ะ บางคนอาจจะคิดไม่เหมือนกัน ก็แล้วแต่ทางใครทางมันนะค่ะ ฮ่าๆๆ

เริ่มกันที่

1. อุปกรณ์การวัดค่ะ

Gj

เริ่มจากขวาไปซ้ายนะค่ะ

1.1 ไม่โค้งนกแก้วค่ะ  อันนี้คือไม้สารพัดประโยชน์ ใช้ทำวงแขนเสื้อ สะโพก คอเสื้อ ส่วนโค้งต่างๆ การใช้งานง่ายค่ะ อ่านตามที่ไม้บรรทัดได้เลยค่ะ
1.2 สายวัด สำคัญมากในการวัดตัว วัดผ้า และวัดแพทเทรินในส่วนโค้งที่ไม้บรรทัดธรรมดาทำไม่ได้ค่ะ
1.3 ไม้บรรทัดยาว มีตัวเลขบอกหน่วยเป็นนิ้ว และ เป็นเซนติเมตร
1.4  ไม้บรรทัด Patch Work  ความจำเป็นไม่มากค่ะ แต่ที่ใช้เพราะปรางสายตาไม่ค่อยดีกะเส้นไม่ตรง ไม้บรรทัดแบบนี้ราคา 100 กว่าบาท ถ้าจะใช้แนะนำไม้ฉาก 3 เหลี่ยมค่ะใช้งานเหมือนกันถูกกว่าหลายบาท ตอนนั้นซื้อมาเพราะความรู้น้อยค่ะ 55+

2. อุปกรณ์สร้างแพทเทริน (ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ)

2.1 ดินสอดำ
2.2. ดินสอสี ไว้ใช้เวลาเขียนการปรับแต่งแพทเทริน สมมุตินะค่ะว่าเขียนวงแขนไว้ด้วยสีดำ แต่ขนาดมันเล็กเกินก็ต้องวาดใหม่ ถ้าใช้ดินสอดำอีกเดี๋ยวตอนตัดจะงงไม่รู้ว่าจะตัดเส้นไหนนะค่ะ แนะนำให้ใช้ดินสอสีวาดดีกว่าค่ะ
2.3 ยางลบ
2.4 กระดาษทำแพทเทริน ถ้าไม่ได้ทำอะไรใหญ่โตก็ใช้ เอ 4 หรือ กระดาษอะไรก็ได้ค่ะ

3.  อุปกรณ์เขียนผ้า

H

3.1 ปากกาเมจิกซักได้ หมึกจะหายไปเมื่อโดนน้ำค่ะ ใช้งานง่ายดีค่ะ แต่ราคาก็แพงกว่าที่วางไว้ทั้งหมด
3.2 ดินสอเขียนผ้า ใช้งานง่ายไม่ต้องคอยเหลา ดึงปลายด้ายออกกระดาษที่ห่อไว้ก็จะหลุดออกมาเอง แต่ถ้าจะให้วาดเส้นยาวๆ ปรางว่าไม่โอเพราะไส้ดินสอโดนผ้าแล้วมันหนึด จะทำให้ลากผ้าไปด้วย ตัวนี้ปรางใช้สำหรับมาร์คเท่านั้นค่ะ
3.3 ชอล์ค3เหลี่ยมรุ่นคลาสสิค เขียนง่ายค่ะ ใช้ดีแต่ชอบหัก แตกบ่อย อารมณ์เสีย เลยไม่ใช้แล้วค่ะ
3.4 ชอล์คผง รุ่นนี้โดนใจปรางสุดค่ะ เขียนง่าย เส้นเล็ก ไม่ต้องห่วงเรื่องหัก พัง เวลาหมดก็เปลี่ยนไส้เอา


4. อุปกรณ์การตัดค่ะ

Q

4.1 กรรไกรก้ามปูใช้ตัดด้าย
4.2 กรรไกรตัดกระดาษ จริงๆก็กรรไกรธรรมดาแหละค่ะ แต่ถ้าอยากยืดอายุนานๆก็ให้ใช้ตัดกระดาษอย่างเดียวค่ะ
4.3 กรรไกรตัดผ้าเหล็กของซิงเกอร์ ตัดดีมากๆ ห้ามใช้ตัดอย่างอื่นที่ไม่ใช่ผ้าเดี๋ยวจะเสียคม และที่สำคัญ ห้ามทำร่วงงงงงงงงงงงงงง

5. อุปกรณ์กลิ้งผ้า

Hkk

5.1 ลูกกลิ้งปลายมน  เส้นเบาบาง ถนอมแพทเทรินไม่ให้ขาดแต่เส้นไม่คมค่ะ เลยไม่ได้ใช้แล้ว
5.2 ลูกกลิ้งฟันแหลม รุ่นคลาสสิคยอดนิยม กลิ้งออกมาจะเป็นจุดๆแบบไข่ปลา แต่ปรางไม่ชอบเพราะเวลากลิ้งแล้วทำแพทเทรินเป็นรูๆ เลยไม่ได้ใช้แล้วเหมือนกันค่ะ
5.3 ลูกกลิ้งเรียบ โดนใจสุดๆ เพราะแพทเทรินไม่พัง เส้นคม จับถนัด แต่ราคาก็ตามคุณภาพค่ะ
5.4 กระดาษคาร์บอนสำหรับผ้า ใช้กลิ้งลอกลายจากแพทเทรินลงบนผ้าค่ะ ห้ามใช้คาร์บอนธรรมดานะค่ะมันซักไม่ออก

6 อุปกรณ์กลัดผ้าค่ะ

Fn

6.1 เข็มกลัดใช้ในกรรณีเย็บยางยืดค่ะ ถ้านึกไม่ออกว่าใช้ยังไง เข้าไปดูที่ปรางใช้ทำรัดช่วงส้นเท้าดูค่ะ lhttp://lazyhousewifesewingcooking.blogspot.com/2014_04_01_archive.html
6.2 เข็มหมุด สำคัญมากๆค่ะ ไว้กลัดผ้าตอนวางแพทเทรินก่อนกลิ้งผ้า และตอนก่อนเย็บแทนการเนาค่ะ

7. อุปกรณ์เย็บค่ะ

Vjk


7.1 เข็มเย็บผ้า
7.2 ด้ายเนา หลอดสีขาวนั่นค่ะ ต่างจากด้ายปกติคือจะขาดง่าย เวลาเราเนาแล้วจะแกะออกก็แค่ใช้มึงดึงไม่ต้องมานั่งเลาะผ้าค่ะ
7.3 ที่เลาะผ้า สำคัญค่ะเพราะเย็บผิดเป็นประจำ 555+
7.4 ด้ายเย็บผ้าค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นอุปกรณืั้ปรางใช้อยู่จริง บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับรีวิวที่เขียนไปแต่อย่างที่บอกไว้ค่ะ ทางใครทางมัน ฮ่าๆๆ

หากมีข้อสงสัยเข้าไปถามได้ในเฟสบุคนะค่ะ  ขอบคุณค่ะ
https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife



วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วิธีเย็บผ้าปูที่นอนเด็ก


เข้าไปชมผลงานของปรางได้เพิ่มเติมที่
https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife

สวัสดีค่ะ วันนี้ปรางเอาโปรเจคที่ทำไว้นานแล้วแต่ยังไม่เคยโพสมาลงไว้ เพื่อใครสนใจอยากทำเองบ้างจะได้ประหยัดงบค่ะ 

โปรเจคที่ว่าวันนี้คือ ผ้าปูที่นอนเด็กค่ะ ปรางไปซื้อเตียงเด็กมา 3 พันนิดๆ เป็นเตียงโครงเหล็ก

B1

คลุมด้วยผ้าร่มสีสันสวยงาม แต่คุณภาพผ้าขัดใจคุณแม่มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก สุดท้ายทนไหวต้องรื้อใหม่หมด สภาพเลยออกมาเป็นตามรูป 55+ พี่สาวบอกทีหลังขอซื้อแค่โครงมานะ เสียดายตัง


สาเหตที่ตัดสินใจซื้อเพราะ คุณแม่ตั้งงบกับเตียงไว้ไม่เกิน 3500 บาท คือรวมทุกอย่างแล้วต้องไม่เกิน เบาะที่นอน หมอน มุ้งคลุม ด้านหน้าต้องเปิดได้ สรุปของถูก(ใจ)และดีไม่มีในโลกค่ะ ไปเจอตัวนี้เค้า 3350 บาท มีครบทุกอย่างที่กล่าวมา แต่ผ้าที่ใช้คลุม.....มาก เอาว่ะ เด๋วมาโมเอง จัดการสอยมาแบบงง ขนขึ้นแทกซี่มาคนเดียว ตอนนี้อายุครรภ์ได้ 3 เดือนกว่า 555555555555+


B3

ก่อนที่เราจะไปถึงการทำผ้าปู มันก็มีเรื่องขัดใจกับที่นอนที่แถมมาจนได้ ผ้าที่คลุมมาลาย....มาก สากเหมือนผ้าคลุมเต็นท์ เลยต้องจัดการรื้อมันซะ แล้วใช้ผ้าสีพิ้นหุ้มใหม่ ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

อย่าตกใจนะค่ะ ด้านข้างในรูปยังไม่ได้ทำตอนนี้มีเรียบร้อยแล้วจะค่อยๆอัพเดทให้ชมกันนะค่ะ ^___^


B2

พอใช้ผ้าสีขาวหุ้ม ดูดีมีราคาขึ้นมาทันที่ หมอนก็ใช้เศษผ้าที่เหลือนั่นและค่ะ ตอนแรกจะทำหมอนหลุม แต่พี่สาวบอกว่าไม่ต้องนอนหมอนหรอก เดี๋ยวหัวแบน ปรางก็เลยทำหมอนใบเล็กเข้าเซ็ทกับผ้าปูเอาไว้ใช้ตอนโตขึ้นหน่อย
ปล.ลูกพี่สาว 2 คน หัวสวยมากเลยยอมฟังนาง ณ จุดนี้

B4

เอาจริงๆหมอนก็ไม่เล็กนะ 55+  ยาวประมาณ 2 คืบได้ เอาไว้ตกแต่งเตียงก่อนแล้วกัน คงอีกนานกว่าจะได้ใช้งาน

เอาล่ะมาเข้าสู่วิธีการเย็บผ้าปูที่นอนกันเลยดีกว่า ทำง่ายมากๆๆๆ สาบานค่ะ ไม่เกิน 1 ชม.ก็เสร็จค่ะ

อุปกรณ์ที่ใช้

1. ผ้ายาว 2 เมตร
2. จักรเย็บผ้า ด้ายสีเดียวกับผ้า
3. ไม้บรรทัด 
4.ชอล์กเขียนผ้า
5. กรรไกรตัดผ้า
6. ยางยืดเส้นเล็กกว้างไม่เกิน 1 ซม. ความยาวเท่ากับด้านกว้าง + ด้านยาวของเบาะค่ะ
8. สายวัด
9. เข็มกลัด


วิธีทำ

B5

1.  วัดความยาวของเบาะ ด้านกว้าง และด้านยาวค่ะ สาบานว่า 2 ตัวนี้กำลังช่วยค่ะ ช่วยป่วนนนนนนน ให้ช้าขึ้น


B7

2. พอได้ขนาดมาแล้วก็วัดผ้าให้ได้กว้างยาวตามนั้นแล้วเพิ่มไปอีก 8 นิ้วรอบด้านค่ะ เสร็จแล้วตัดมุมออกทุกมุม ตัดส่วนที่เราเพื่อไว้ 8 นิ้วนั่นล่ะค่ะ  เส้นสีแดงคือความยาวที่ต้องตัดออก ดังนั้นตอนตัดให้หลือเพื่อตะเข็บสัก 2 ซม.นะค่ะ


B8

3. เย็บมุมเข้าหากันค่ะ เส้นแดงที่ขีดไว้พับด้านถูกเข้าหากัน ระวังมุมนะค่ะต้องกลัดไว้ตรงกัน แล้วจัดการเดินจักรเลยค่ะ

B9

4.  เย็บออกมาด้านในจะเป็นแบบนี้นะค่ะ

B11

5. ถ้ามีจักรโพ้งก็เก็บขอบเลยค่ะ ถ้าไม่มีจะใช้วิธีกุ๊น เย็บทับ หรือ ซิกแซกแบบไหนก็ได้ค่ะ

B10

6. กลับด้านออกมา จะได้มุมสวยความแบบนี้ค่ะ

B12

7. คราวนี้เป็นการเย็บขอบด้านล่างไว้ใส่ยางยืดค่ะ ถ้ามีจักรโพ้งเก็บขอบก่อน ถ้าไม่มีก็ใช้วิธีที่เพื่อนๆทำในขั้นตอนที่ 5 ที่ทำการเก็บขอบเลยค่ะ  ก่อนจะเย็บต้องดูขนาดความกว้างของยางยืดก่อนค่ะ ของปรางใช้ 0.5 ซม. ก็เย็บช่องใส่ให้กว้าง 1 ซม. พอ ถ้าของใครใหญ่กว่านี้ก็เพื่อเพิ่ม 0.5 ซม. นะค่ะ ได้ขนาดแล้วเย็บให้เกือบรอบ แล้วเว้นไว้ซัก 2 นิ้วไว้ใส่ยางยืดค่ะ

B14 

8.  ตัดยางยืดเท่ากับความยาวด้านกว้าง + ด้านยาว ใช้เข็มกลัดด้านหัวแล้วค่อยสอดเข้าไปให้รอบเลยค่ะ ค่อยๆรูดยางยืดนะค่ะ จะได้ไม่ไปกองอยู่ด้านในด้านเดียว
เวลาปรางสอดยางยืด ปรางจะกลัดปลายยางยืดไว้ด้วย เอาไว้กันเวลาเราดึงแรงเกินจะได้ไม่หลุดเข้าไปหมด 55+

B15

9. พอสอดเข้าไปหมดก็ทำการเย็บยางยืดส่วนหัวกับท้ายติดกัน ปรางใช้วิธีซิกแซกเอาค่ะ 
ย้ำๆสัก 2-3 ทีกันเหนียว


B16

10. ขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ก่อนเย็บก็รูดส่วนที่ย่นไปไกลๆ แล้วค่อยเย็บปิดช่อง ระวังอย่าให้โดนยางยืดนะค่ะ 


B17

11. ผลงานออกมาจะเป็นแบบนี้ค่ะ เวลาใส้ก็คลุมไปเลย ถ้ายังรู้สึกว่ามันหลวมผ้าคลุมไม่ตึง ให้เลาะส่วนที่เราเย็บปิดขั้นสุดท้ายออก แล้วตัดยางยืดให้สั้นลง จะทำให้ผ้าตึงขึ้นค่ะ



B19

เป็นไงค่ะ ไม่ยากเลยใช่ไหม  ปรางว่าจะทำไว้สัก 2-3 เซ็ท เพราะต้นทุนไม่แพง เลือกลายได้ตามใจชอบ    ทำใช้เองดีที่สุดค่ะ ได้ของดีราคาถูกสมใจคุณแม่บ้านแน่ๆค่ะ


หากมีคำถามเข้าไปถามได้ในเฟสบุคปรางนะค่ะ ^___^


วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

D.I.Y บอดี้สูทเด็ก / วิธีการเย็บชุดเด็ก

สวัสดีตอนเช้าค่ะ วันนี้คุณแม่ตื่นเร็ว ทำกับข้าวให้สามีเสร็จเรียบร้อยแล้วเลยมีเวลามานั่งอัพเดทวิธีการเย็บชุดที่ติดค้างวันเมื่อวานนะค่ะ

ใครที่ยังไม่ได้ดูวิธีการทำแพทเทรินชุดนี้สามารถเข้าไปดูได้ที่  http://lazyhousewifesewingcooking.blogspot.com/2014/05/diy.html

s00
DIY ชุดหมีเด็กน้อยจากเสื้อเก่าคุณแม่เองค่ะ
เข้าไปชมผลงานของปรางได้เพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife

เอาล่ะมาเข้าสู่วิธีเย็บกันเลยดีกว่า ปรางลืมถ่ายรูปอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมดไว้ แต่จะเขียนรายละเอียดให้นะค่ะ

อุปกรณ์

1. ผ้ายืดสำหรับตัดเสื้อยืดทั่วไปค่ะ ปรางใช้เสื้อเก่าทำค่ะ
2. อุปกรณ์เย็บผ้าพื้นฐาน เข็ม ด้าย กรรไกร เข็มหมุด กระดาษคาร์บอน ลูกกลิ้ง และ จักรเย็บผ้าค่ะ
3. กระดาษกาว 2 หน้า สำหรับรีดติดผ้า พร้อมผ้าที่จะทำลายการ์ตูนค่ะ
4. กระดุมสแนบ หรือ กระดุมแป๊กแบบเย็บตามสะดวกค่ะ

วิธีเย็บ

s1

1. กลิ้งแพทเทรินชิ้นหน้าและชิ้นหลังลงบนผ้าค่ะ ให้เพื่อตะเข็บ 1.5 ซม.นะค่ะ  แขนเสื้อก็เก็บไว้ก่อน
ส่วนที่เป็นเส้นๆนั้นจะเอามาทำเป็นผ้ากุ๊นค่ะ ไม่ต้องตัดตามแนวเฉลียงเพราะผ้ายืดอยู่แล้ว ขนาดความกว้าง 2 ซม.ค่ะ ส่วนความยาวเอาเท่าที่ได้ค่ะตามเศษผ้าที่เหลือ


s2

2. หากต้องการทำลายการ์ตูนให้ทำให้เรียบร้อยก่อนเข้าตัวเสื้อนะค่ะ ปรางใช้กาว 2 หน้ารีดเอา ตัดผ้าเป็นรูปปลาวาฬ ปักเพิ่มปากกับตา และรีดเลยค่ะ


s3

3. ก่อนจะทำการติดผ้ากุ๊นให้ตัดขอบเหลือ 0.5 ซม. ให้เท่ากันตลอดแนวนะค่ะ เวลาเย็บจะได้ไม่ต้องมานั่งมาร์คเส้นเพิ่ม คุณแม่ขี้เกียจ อิอิ  ตัดขอบทำทั้งขอบคอและขอบชายก้น 2 ชิ้นหน้าหลังเลยนะค่ะ


s4

4. ในเมื่อเราตัดขอบเหลือบ 0.5 ซม.แล้วก็วางผ้ากุ๊นให้พอดีขอบเลยค่ะ โดยวางผ้ากุ๊นกับผ้าชิ้นหน้า ด้านถูกชนด้านถูกแล้วกลัดให้รอบเลยค่ะ


s5


s6

5.  กลัดออกมาจะเป็นแบบนี้   รูปบนคือชายก้นกางเกง  รูปล่างขอบคอค่ะ แล้วนำไปเย็บค่ะ ใช้ตะเข็บแค่ 0.5 ซม.นะค่ะ


s7

6. เมื่อเย็บเสร็จแล้วนำมารีด โดยรีดจากด้านในดันตะเข็บออกไปทางผ้ากุ๊น และรีดผ้ากุ๊นส่วนที่เหลือ กลับมาทับตะเข็บค่ะ


s8

7. รีดผ้ากุ๊นเสร็จจะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ


s9

8. เอาส่วนที่กุ๊นไปกลัดก่อนเพื่อนจะเย็บซิกแซก แต่คราวนี้เราจะเย็บจากด้านนอกนะค่ะ คืดเย็บผ้าด้านถูกเลย ดังนั้นให้กลัดไว้เพื่อที่ผ้าจะได้ไม่ย่นผิดรูป เวลากลัดต้องให้ผ้าด้านในที่รีดกลับติดอยู่แบบรูปที่ปรางชี้นะค่ะ มันจะเหลื่อมจะด้านหน้านิดนึงค่ะ


s10

9. จัดการเย็บซิกแซกให้ตลอดแนวค่ะ เชคด้านในด้วนะค่ะว่าเย็บติดผ้ากุ๊นไหม ถ้าไม่ก็เดินจักรซ้ำค่ะแต่ฝีเข็มมันจะไม่ค่อยสวย ดังนั้นขั้นตอนที่ 8 ต้องระวังให้ดีจะได้ไม่ต้องมาทำซ้ำค่ะ


s11

10. มาสู่การเข้าแขน ได้มาร์คจุดแขนไว้หรือป่าวค่ะ ที่ปรางบอกให้พับเส้นไหล่ในที่แพทเทริน ตรงนี้แหละค่ะที่เราจะรู้ว่าไหล่จะมาชนกันถึงไหน ถ้ามาร์คแล้วก็จะการกลัดแล้วเย็บได้เลยค่ะ  การวางผ้าให้เอาชิ้นหลังวางบนชิ้นหน้านะค่ะ โดยให้ผ้าด้านถูกอยู่บนทั้งสองชิ้น


s13

11. ก่อนเข้าแขนเรามามาร์คตำแหน่งกลึ่งการกันก่อนค่ะ  คลิบนิดหนึงเพื่อเวลากลัดผ้าจะได้เห็นชัดค่ะ


s12

12. ปลายแขนปรางเอากว้างที่ 3 นิ้วค่ะ ความยาว 5 นิ้ว ส่วนรอบวงแขนต้องไปวัดที่ตัวเสื้อก่อนนะค่ะว่าได้เท่าไร แต่ถ้าใช้แขนเสื้อเก่าแบบปรางก็ไม่ได้วัดค่ะเพราะลองทาบแล้วมันเกือบพอดีเลยเย็บไปก่อนแล้วค่อยตัดส่วนที่เหลือทิ้งที่หลัง


s14

13. กลัดแขนเสื้อโดยเอาผ้าด้านถูกชนด้านถูกนะค่ะ จุดที่สำคัญคือไหล่ที่เราคลิบไว้ต้องต้องกันนะค่ะ เย็บให้ตลอดแนวค่ะ ใครที่ไม่ได้มารคก็ไม่เป็นไร วงแขนเสื้อเราเอาตัวแพทเทรินชิ้นเสื้อเป็นหลัง ฮ่าๆๆ ฟังดูขี้เกียจเกินไปไหมเรา


s15

14. ได้แขนเสื้อแล้วก็มาต่อกันที่ด้านข้างค่ะ ง่ายมากๆ พับเสื้อเอาด้านถูกชนถูก ให้ตำแหน่งขอบก้น ขอบแขน และจุดรักแร้ให้ตรงกันนะค่ะ จัดการเย็บเลยค่ะ  หากใครมีจักรโพ้งก็เก็บตะเข็บเลยนะค่ะ ถ้าไม่มีสามารถใช้กรรไกรซิกแซกตัดได้ค่ะ


s16


15. ด้านล่างปรางใช้แสนปพลาสติก หากเพื่อนๆไม่มีก็ใช้กระดุมแป๊ก หรือ ตีนตุ๊กแกก็ได้ค่ะ ตามสะดวกเลยค่ะ   แค่นี้เป็นอันเสร็จสิ้นผลงานค่ะ




s17
Tadaa!!!!!!

เป็นไงค่ะไม่อยากเกินไปใช่ไหมค่ะ หากมีคำถามเข้าไปสอบถามได้ที่  https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife   นะค่ะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะค่ะ