วิธีติดซิลิโคนอ่างล้างจาน + ขอบประตูห้องน้ำ

ช่วงนี้แม่บ้านทำอาหารทุกวัน ทุกมื้อ เลยทำให้เจ้าอ่างล้างจานทำงานหนักเกินไป ซิลิโคนกันน้ำซึมเริ่มเสื่อมสภาพ น้ำซึมไปรอบๆไม้ข้างๆเริ่มบวม โอ่ย ตายๆๆๆ งวดนี้หนูจะโดนกี่บาทค่ะเนีย

โชคดีที่พระอาจารย์กูเกิ้ลทำงานตลอด 24 ชม. มีปัญหาเมื่อไรก็เชคได้ตลอด ปรางก็หาข้อมูลดู แต่ข้อมูลที่ได้ส่วนมากคือการยิงซิลิโคน ซึ่งตัวซิลิโคนไม่แพง แต่ตัวปืนยิงสิค่ะ

วันรุ่งขึ้นก็ออกเดินไปตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ได้คำตอบว่าไปหาซื้อกาวซิลิโคนที่ใช้กับขอบตู้ปลาก็ได้หลอดละ 100 กว่าบาท จะได้ไม่ต้องซื้อปืนกาวเปลืองเงินเปล่าๆ

พอได้คำตอบก็แจ้นไปเดอะมอล์ ไปเจอกับเจ้าตัวนี้ค่ะ ราคา 160 บาท มีให้เลือกตั้งแบบใส และ สีขาว ตัวนี้สีขาวค่ะ ถ้าจะไม่ผิดหลอดสีเขียวจะเป็นสีใสค่ะ

พอได้มาก็ต้องเอามาประกอบร่างกันก่อนออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

จัดการลอกซิลิโคนอันเก่าที่เสื่อมสภาพออกไปเลยค่ะ ทำความสะอาดอย่าให้มีสิ่งสกปรกนะค่ะ

หยอดซิลิโคนไปรอบๆอ่างค่ะ ทำทีละข้างนะค่ะ

ตัดกระดาษเป็นมุมฉาก มารูดขอบให้สวยงามค่ะ

เอาทิชชู่รูดอีกรอบ ไม่ไต้องดันซิลิโคนนะค่ะ แค่รูดให้เรียบพอ

เสร็จเรียบร้อยก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ ปล่อยไว้สัก 1 ชม. ค่อยใช้งานค่ะ

มาต่อกันที่ขอบประตูห้องน้ำเลยค่ะ วิธีการเดียวกันเลยค่ะ เช็ดฝุ่นออกให้หมดก่อนค่ะ

ขอบประตูหลุดออกมาทั้งแท่งเลยค่ะ

เช็ดฝุ่นแล้ว ฉาบซิลิโคนลงไปเลยค่ะ

ทำการรูดขอบเหมือนอ่างล้างจานค่ะ หน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

วิธีล้างแอร์บ้านด้วยตัวเองและการแก้ปัญหาน้ำแอร์หยด

วันนี้แม่บ้านแสนขี้เกียจมีวิธีล้างแอร์บ้านด้วยตัวเองมาเสนอค่ะ วิธีนี้ทำมาแล้ว 3 ครั้งก็ไม่เห็นแอร์พังสักที เลยคิดว่าน่าจะทำถูกแล้วและคงเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย  จริงๆคือ ปรางศึกษาวิธีเองจากยูทูป เวปต่างๆมาค่ะ ไม่ได้เก่งเลิศมาจากไหนหรอกค่ะ อิอิ

ผู้หญิงล้างแอร์ฟังดูไม่สวยงามเลยใช่ไหมค่ะ แล้วจะแคร์ทำไมในเมื่อเราก็ไม่สวย 555555 (ขำใส่หน้าตัวเอง)  โลกมันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ แม่บ้านสมัยใหม่อย่างเราก็ต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองล้าหลังนะค่ะ อาชีพแม่บ้านคือ อาชีพเจ้าของบ้าน 5555 ดังนั้นต้องดูแลทุกอย่างในบ้านให้ได้หมดทุกเรื่องนะค่ะ

น้ำแอร์หยดแบบนี้ค่ะ

เหตุที่เริ่มศึกษาการล้างแอร์บ้านด้วยตัวเอง คือ แอร์ที่ห้อง 2 ตัว 1 ตัวไม่เย็น อีก 1 ตัวน้ำหยดตลอดวัน ค่าไฟก็แพงขึ้น!!!  ทำไงดีไม่อยากเสียเงิน เด๋วนี้ล้างแอร์ครั้งละ 500-700 บาท แถมช่างมาล้างก็ไม่ค่อยสะอาด! 

พอเริ่มหาข้อมูล เฮ้ย! ง่ายมาก อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ ก็ใส่เกียเดินหน้าเต็มที่เลยค่ะ

เอาล่ะมาดูอุปกรณ์ที่ว่าง่ายกันเลย

1. ถุงพลาสติก 2  ใบ เล็ก 1 ใหญ่ 1 + ตัวหนีบผ้า 2 อัน

2. แปรงสีฟันอันเก่า

3. ที่ฉีดน้ำ

4. หลอดดูดน้ำ หรือ สลิงฉีดน้ำ อะไรก็ได้ที่ใช้หยอดน้ำได้ค่ะ

5. น้ำยาไฮเตอร์ เอาไว้ล้างท่อแอร์ค่ะ

6. คัตตอนบัท เอาเชคความสกปรกของท่อน้ำแอร์ค่ะ

7.  ไขควง

วิธีทำนะค่ะ

 1. ปิดแอร์ และ คัทเอ้าให้เรียบร้อยก่อนค่ะ แล้วค่อยจัดการเปิดผาครอบแอร์ออกค่ะ ด้านข้างจะมีมุมให้จับและเปิดขึ้นค่ะ

2.  ดึงตะแกรงที่กรองอากาศออกค่ะ เวลาเอาออกให้ยกดันไปด้านหลังนิดหน่อยแล้วค่อยดึงค่ะ ตัวตะแกรงเป็นพลาสติกอ่อนๆ ดันได้ไม่หักค่ะ

3. เอาออกมาหน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ ฝุ่นเกาะขนาดนี้จะเย็นได้ไง 5555 เอาไปล้างเลยค่ะ ฉีดน้ำแปรงขัดเบาๆ แล้วตากไว้ให้แห้งสนิท

4. มาต่อที่ตัวเครื่องนะค่ะ ไขน็อตตัวฝาครอบอีกชั้น น๊อตจะมี 2 ตัวนะค่ะ จะอยู่ช่วงตะแกรงของสองข้างแบบในรูป น๊อตตัวขวาสุดเป็นหมอแปรงไม่ได้ไขนะค่ะ

5. เมื่อไขน๊อตเสร็จแล้วจัดการถอดเลยค่ะ สังเกตเห็นน๊อตตัวขวาสุดไหมค่ะ ตัวนั้นไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลยค่ะ

6.  ถอดฝาครอบเสร็จก็ถอดตะแกรงใบพัดด้านล้างออกมาล้างด้วย แต่ถ้าไม่สกปรกก็ไม่ถอดก็ได้ค่ะ

7. หน้าตาของแอร์ที่ถูกถอดออกจะเป็นแบบนี้ค่ะ

8. เอาถุงใบเล็กครอบหม้อแปลงไว้กันน้ำเข้าค่ะ ส่วนถุงใบใหญ่ให้เอาตัวหนีบผ้าหนีบรองให้ใต้เครื่องกันน้ำเปื้อนผนัง แต่รอบนี้ปรางไม่ได้ใช้เพราะฝุ่นที่เครื่องไม่เยอะเลยไม่กลัวเปื่อนมากค่ะ

9. ฉีดน้ำตรงที่มีฝุ่นเกาะเยอะๆ เพราะจะทำให้ฝุ่นอ่อนตัวขัดออกได้ง่ายค่ะ

10. จัดการขัดมันค่ะ ตามซี่ตะแกรงเหมือนแปรงฟันเลยค่ะ อย่าลืมถ้าต้องฉีดน้ำเยอะควรเอาถุงรองใต้แอร์เพื่อให้น้ำไหลลงมาเป็นทางเดียวกันนะค่ะ

11. ขัดเสร็จแล้วมาจัดการท่อแอร์ต่อ ท่อจะอยู่ใต้หม้อแปลง บางรุ่นดึงง่าย บางรุ่นต้องออกแรงเยอะๆ ของปราง 2 ตัวในห้อง ยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่น เวลาดึงออกแรงยังไม่เท่ากันเลยค่ะ

เพิ่มคำอธิบายภาพ

12. เอาล่ะมาเชคดูสิมาท่อแอร์สกปรกมากแค่ไหน อี้ๆๆๆๆๆๆๆ ตามนั้น แหย่ไปจิ๊ดเดียว ไหลออกมาเต็มเลย ดังนั้นควรมีถุงมารอง อย่าขี้เกียจแบบหนูนะค่ะ 5555

13.  มาต่อกันที่การล้างท่อ ไฮเตอร์ธรรมดานี่แหละค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแต่เห็นเค้าใช้กันก็ลองดู สรุปแอร์หายตันไปเลยค่ะ การหยอดขึ้นอยู่กับท่อด้วย ของปรางตัวนอกห้องนอนใช้หลอดหยอดได้เพราะต่อมันตั้งหยอดไปมันก็ลงไปเอง แต่ตัวในห้องต้องฉีดเข้าไปเพราะท่อมันราบหยอดไปไม่ไหลเข้าค่ะ

14. ประกอบทุกส่วนเข้าไปเหมือนเดิมเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ

ง่ายนิดเดียวเห็นไหม อิอิ แถมเหลือเงิน 500 ไปช๊อปปิ้งอีก ลองทำดูนะค่ะ แต่.....ถ้าแอร์ที่บ้านอาการหนักมากก็เรียกช่างเอาเถอะนะค่ะ  

สำหรับวันนี้ บ๊ายยยยยยย  ^_____________^

อโวคาโดแซนวิส + วิธีการปลอกอโวคาโดค่ะ

Healthy fast food : ตอน แซนวิส อโวคาโด :Avocado sandwich

มื้อนี้เกิดขึ้นจากการเริ่มสรรหาอาหารที่มีประโยชน์ และได้ค้นพบว่าเจ้าอโวคาโดนี่ มันมีดีจริงๆ แต่ซื้อมาแล้วก็ต้องงงกับการปลอกและการประกอบอาหารอยู่สักพัก เมื่อวานก่อนไปฟูดแลนด์เลยไปหยิบมา 1 ลูก ราคา 59 บาทค่ะ

ลองหาข้อมูลสักพักก็เจอสูตรนี้ที่เรียบง่าย ง่ายจนไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้ 55 (แล้วแต่คนชอบนะ)

เอาล่ะมาเริ่มกันที่วิธีปลอกกันก่อนเลยนะค่ะ

1.  ผ่าครึ่งตามแนวยาวของผลนะค่ะ วนมีดไปรอบๆ เพราะเราไม่สามารถผ่ามันออกเลยได้มันจะติดเม็ดข้างใน ผ่าให้ถึงเม็ดนะค่ะ หลังจากนั้นบิดชิ้นบน ล่าง ออกจากกัน
2. เอาปลายมีดแทงเข้าไปที่เม็ดผลอโวคาโดแล้วงัดเลยค่ะ เม็ดจะดูแข็งแต่จริงๆไม่เลยค่ะ
3. ผ่าครึ่งตามรูปเลยค่ะ
4. ลอกเปลือกออก บางคนจะใช้ช้อนขูดแต่สารอาหารจะมีมากก็ตรงสีเขียวที่ติดกับเปลือกค่ะ ดังนั้นเก็บมาไว้ให้มากที่สุด
5.  สไลดหนา บางตามชอบค่ะ การหั่นแบบนี้เหมาะกับใส่ในแซนวิสกับตกแต่งอาหารค่ะ ถ้าใส่สลัดจะทำแบบหั่นเต๋า วันหลังจะทำให้อ่านนะค่ะ


ส่วนประกอบอโวคาโดแซนวิส

1. ขนมปังโฮลวีท whole wheat bread
2. มายองเนส ถ้ากลัวอ้วนก็แบบไขมันต่ำได้ค่ะ แต่ปรางชอบแบบธรรมดา การควบคุมอาหารของปรางไม่ได้ตัดทุกอย่างที่ไม่มีประโยชน์เพราะถือว่าความสุขจากกินเป็นสุขที่ประเสริฐมากๆ 5555555555+
ดังนั้นก็ต้องอาศัยการออกกำลังกายสม่ำเสมอแทนค่ะ  mayonnaise
3. อโวคาโด avocado
4. มะเขือเทศ  tomato
5. กรีนโอ๊ค หรือ ผัดใบเขียวที่ใส่สลัดแบบที่่ชอบค่ะ   Lettuce

วิธีทำอันแสนง่าย 

1. หั่นผักตามรูปเลยค่า

2.  ทามายองเนสบนขนมปังและจัดการโป๊ะผักลงไปเลยค่ะ

3. ผ่าครึ่งพร้อมทานค่ะ

เห็นไหมค่ะง่ายมากๆๆๆๆๆ อร่อยด้วยนะไม่เชื่อลองดูค่ะ ^___^

พิซซ่าไข่ อาหารเช้าเมนูสำหรับไมโครเวฟ

Healthy fast food : ตอน พิซซ่าไข่

เมนูวันนี้เป็นเมนูไข่ที่ปรางชอบทำให้แฟนกินตอนเช้าเพราะทำง่าย รวดเร็ดและรสชาติดีค่ะ

ในไข่มีโปรตีนสูง คุณแฟนชอบกินมากๆ เวลากินอาหารเค้าก็จะสั่งไข่เจียวทุกมื้อ แต่ด้วยความที่เราทั้งสองกำลังปรับปรุงนิสัยการกินใหม่เลยต้องพยายามงดอาหารประเภททอดค่ะ

เพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาอาหารเพื่อการควบคุมน้ำหนักลองเอาไปทำดูนะค่ะ ปรางไม่ใช่กูรูด้านนี้แต่จากที่ทำกินเองก็คิดว่าช่วยได้เยอะค่ะ

อาหารเช้าเพื่อสุขภาพค่ะ อิอิ

ส่วนประกอบ

1. ไข่ไก่ 3-6 ฟอง ตามชอบและจำนวนคนกินนะค่ะ แต่ปรางจะใช้ไข่ 3 ฟองเขียนอธิบายนะค่ะ

2. หอมใหญ่ หั่นเต๋า

3. พริกหวานสีต่างๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

4. พริกไทย

5. เกลือ

6. ซอสมะเขือเทศ

7. ออริกาโน่

วิธีทำ

1. ตอกไข่ทั้งหมดใส่กล่องก้นแบบ แบบกลมหรือเหลี่ยมก็ได้ค่ะ ถ้วยก็ได้แต่ถ้าก้นลึกจะออกมาไม่เป็นแผ่นแบบพิซซ่า

2. ใส่เกลือและพริกไทและตีไข่ให้เข้ากัน

3.  โรยพริกหวานและหัวหอมลงบนไข่ไม่ต้องตีให้เข้ากันนะค่ะ เพราะถ้าพริกจมลงไปจะดูไม่สวย และเอาเข้าไมโครเวฟสัก 2.30 นาที ความร้อนที่ 600 วัตต์ หรือถ้าไม่รู้ระดับความร้อนก็ใส่ไปก่อน 2 นาทีแล้วค่อยเอาออกมาดู ไม่สุกก็เวฟต่อไปอีกสัก 1 นาที

4.  เมื่อเอาไข่ออกมาจะมีหน้าตาเหมือนพิซซ่า ไข่ที่สุกแล้วเนื้อจะแยกออกจากก้นกล่องเอง อาจมีติดนิดหน่อยก้เอาช้อนแงะออกมาเลยค่ะ

5.  หั่นพิซซ่าไข่ตามใจชอบเลยค่า อยากตัดเป็นทรงไหนก็เอาเลยค่ะ ทำเองกินเอง อร่อยเอง 555

จากนั้นราดซอสมะเขือเทศและออริกาโน่เป็นอันเสร็จพิธี

ง่ายมากๆใช่ไหมค่ะ ลองทำดูนะค่ะ อร่อยรวดเร็วเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและชีวิตที่รีบร้อนอย่างอิฉันจริงๆ

สโมคแซลมอน วาซาบิ แร็พ

Healthy fast food : ตอน แซลมอน วาซาบิ แร็พ


กินข้าวนอกบ้านรู้สึกไหม? ว่าอาหารที่ซื้อไปนั้นได้น้อยเหลือเกิน แถมไม่อร่อย สะอาดไหมไม่รู้อีก (เริ่มมีอาการโรคจิต)

ตัดสินใจทำกินเองดีกว่าจ่ายไปเท่าไรก็ได้อิ่มสมราคา แต่เราสองคนก็ไม่ค่อยมีเวลามากนักเลยต้องหาอะไรที่ง่ายทำกิน อาหารไทยตัดไปเลยค่ะ ทำนานกว่าและยิ่งเป็นคนไม่มีฝีมือนี่ จบ!!!! โชคดีที่พ่อมีขาวเราไม่ใช่คนไทยก็เลยไม่มีปัญหา อิอิ แต่...............พ่อหมีขาวชอบกินอาหารทีเฮลตี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ดังนั้นแม่บ้านคนนี้มีข้อจำกัดอยู่สองอย่างคือ เวลา กับ คุณภาพอาหาร  ก็เลยขอเรียกมันตรงๆว่า Healthy fast food เลยแหละกันค่ะ

มื้อแรกขอประเดิมด้วย "แซลมอน วาซาบิ แร็พ" แหละกัน ทำง่าย อร่อย และมีประโยชน์ค่ะ
ราคาค่อนข้างสูงแต่ถ้าเทียบกับซื้อเค้ากินยังไงก็คุ้มค่ะ!



ส่วนประกอบ

1.  แซลมอนรมควัน ราคา 114 บาท 80กรัม  (ปรางซื้อถุงใหญ่ 260 บาท 200 กรัม)

2. ซาวครีม ราคาจำไม่ได้แต่ไม่เกิน 40 บาท

3. วาซาบิทีผสมแล้วเป็นหลอด ราคาจำไม่ได้เหมือนกันแต่ไม่เกิน 80 บาท

4. แป้งแผ่นทอเทีย ราคา 89 บาท มี 10 แผ่น (ใช้ขนมปังได้ค่ะ)

เคปเปอร์

5. ผักชีลาว กำละ 5-20 บาท แล้วที่ซื้อค่ะ

6. หัวหอม 10-35 บาทแล้วแต่ที่ซื้อเช่นกัน


7. เคปเปอร์ขวดละ 89 บาทค่ะ

8. ผักกรีนโอ๊ค เรคโอ๊ค คอสใช้ได้หมดค่ะตามชอบเลย ปกติราคาจะอยู่ประมาณ 29-35 บาทต่อแพคค่ะ

**ส่วนผสมทุกอย่างหาได้ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปค่ะ

วิธีทำ

1. ล้างมือให้สะอาด 555 แล้วค่อยมาซอยผักทุกอย่างเป็นชิ้นเล็กๆ หัวหอมใช้หั่นเต๋าจะทานอร่อยกว่าหั่นแว่นค่ะ  เม็ดเคปเปอรเอาออกมาเตรียมไว้เลยค่ะ

2. ผสมซาวครีมประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ กับวาซาบิ 2 ช้อนชา ลองชิมดูค่ะถ้าชอบวาซาบิเยอะๆก็ใส่เพิ่มตามใจคนกินค่ะ

3. ทาซอสที่ผสมแล้วมาทาบนแป้งทอเทีย แป้งทอเทียจะอุ่นก็ได้นะค่ะ แต่ปรางไม่อุ่นเพราะที่บ้านมีแต่ไมโครเวฟ ถ้าอุ่นแล้วสักพักมันจะแห้งและแข็งค่ะ

4. จัดการโรยผักตามชอบเลยค่ะ ทำเองใส่มากใส่น้อยตามใจโลดค่าาาาา วางตรงกลางเป็นแถวๆนะค่ะตอนม้วนจะได้ไม่เละ

5. นางเอกมาแล้วค่ะ แซลมอนรมควัน วางไปทั้งชิ้นเลยค่ะ (เก็บกดซื้อเค้าไม่เคยได้เต็มชิ้น ฮึๆๆ)

6. โรลเลยค่ะ ม้วนโลดตอนม้วนต้องดันๆไส้ในหน่อยนะค่ะถ้าม้วนหลวมๆจะกินไม่ซะใจ ม้วนให้แน่นมือก็ล้างแล้วไม่ต้องกลัวค่ะ 555

^__________________^           Tadaa!!! ออกมาหน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ

ผ่าครึ่งให้ดูกันเต็มๆ เห็นแล้วหิวเลยค่ะ

เสร็จไปเรียบร้อยค่ะ เพื่อนๆลองทำดูนะค่ะ ง่ายมากๆ อร่อยด้วย เอารูปมาโชวกันบ้างนะค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะค่ะ ว่างๆจะมาแนะนำเมนูง่ายๆได้สุขภาพอีกนะค่ะ วันนี้ราตรีสวัสค่ะ

ทำไมแอปเปิ้ลเปลี่ยนสี และ วิธีป้องกันแอปเปิ้ลเปลี่ยนสีค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้ปรางค่อนข้างหักโหมกับการเรียนตัดผ้ามากๆๆๆๆๆๆบวกกับการออกกำลังกายเกือบทุกวัน เลยไม่ค่อยมีเวลามาอัพเดทชีวิตอันยุ่งเยิง

แต่วันนี้จะมาเสนอวิธีการเก็บรักษาสีของแอปเปิ้ลไม่ให้คล้ำเร็วค่ะ เนื่องจากแม่บ้านอย่างอิฉันชอบการจัดตกแต่งอาหารเป็นอย่างมาก (รสชาติไม่ดี เอาหน้าตาดีไว้ก่อน 555) ดังนั้นสีของอาหารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆค่ะ

Red Apple

ก่อนอื่นเรามาว่าถึงสาเหตุก่อนว่าทำไม๊ ทำไม มันต้องเปลี่ยนสีด้วย!

  สาเหตุก็คือ ปลือกแอปเปิ้ลที่หุ้มอยู่จะมีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่เรียกว่าโพลีฟีนอล ที่คอยปกป้อง

แอปเปิ้ลจากแสงแดดและอากาศ แต่เมื่อเราปอกเปลือกทิ้ง หรือ แค่หั่นแบ่งชิ้นก็ตาม อากาศ

ภายนอกก็จะทำปฏิกิริยาต่อเอ็นไซม์และสารที่ที่อยู่ตรงผิวของแอปเปิ้ลจึงทำให้เดิกสีคล้ำขึ้น

นั่นเอง

วิธีการป้องกันแอปเปิ้ลเปลี่ยนสีง่ายนิดเดียวค่ะ  

นำไปแช่น้ำเกลือ โดยใช้ประมาณ 1 ช้อนชา ต่อ 1 ชามใหญ่ค่ะ แช่ไว้สักพักก็เก็บรักษาเนื้อขาวๆไว้ได้นานเลยค่ะ

ทำแช่ตู้เย็นไว้กินมื้ออื่นด้วยค่ะ

ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก จัดให้สวยงาม รอคุณแฟนกลับมารับประทานด้วยกัน คริ คริ
แค่กล่องแอปเปิ้ลน้อยนี้ก็สร้างความหวานในชีวิตคู่ได้แล้วค่ะ ^___^

วิธีทำบลูเบอรี่ชีสเค้ก ทำง่าย อร่อยมว๊ากๆ ๆ ๆ

วันนี้แม่บ้านแสนขี้เกียจจะมาเขียนอธิบายวิธีทำบลูเบอรี่ชีสเค้กให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะค่ะ

blueberry cheesecake

ปรางกับแฟนชอบกินชีสเค้กมากๆ ๆ ๆ เวลาไปซื้อเค้าก็ชิ้นละ 100 กว่าบาท จะแบ่ง (แย่ง) กันกินก็ยังไงอยู่ คนละชิ้นราคาก็คูณสองไปสิค่ะ! 

เลยคิดหาวิธีทำเองซะเลย เริ่มจากกูเกิ้ลโลดค่ะพี่น้อง มีวิธีทำหลากหลายมากมาย แต่ตามคอนเซปแม่บ้านแสนขี้เกียจแล้ว ก็จะตัดให้รวดเร็ว ทำให้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์นะค่ะ เพราะมีติดบ้านกันอยู่แล้วแน่นอน แถมราคาไม่แพง ได้รสชาติที่ถูกใจตัวเองที่สุดด้วยค่ะ

มาเริ่มกันที่อุปกรณ์ กับ วัตถุดิบกันเลยค่ะ

อุปกรณ์ที่ใช้

1. ถ้วย 2 ใบ เอาใบใหญ่ๆนะค่ะ

2. ช้อน 3 คัน

3. เข็มหมุด เข็มกลัด อะไรก็ได้ที่เล็กๆ แหลมๆ

4. สาก หรือ ขวดแก้ว หรืออะไรที่แข็งๆที่เอามาใช้ทุบก็พอค่ะได้ค่ะ

5. ไมโครเวฟ หรือเตาทำความร้อน

6. ตู้เย็น

วัตถุดิบ

1.  แคร๊กเกอร์แบบไม่มีไส้นะค่ะ 1 ซอง ปรางใช้ของ โรซี่ราคา 9 บาทค่ะ ของริทซ์ก็เคยใช้แต่ผลออกมารสชาตเหมือนกัน แต่ราคาต่างกันมากค่ะ

2. นมข้นหวาน หรือ ครีมเทียมหวานได้เหมือนกันค่ะ  4-6  ช้อนโต๊ะ ปรางใช้ของ คาเนชั่น ราคา 21 บาทค่ะ

3. เนยเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ ปรางใช้อลาวรี ก้อนละ 82 บาทค่ะ

4. บลูเบอรี่กวน ใช้ครึ่งกระป๋อง หรือมากน้อยตามใจคนทำค่ะ ยี่ห้อไวล์เดอร์เนส ราคา 119 บาทค่ะ 

5. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย ปรางใช้ของไบโอ 12 บาทค่ะ (ลืมถ่ายรูปนางมาด้วย)

5. ตัวชูโรงของงานนี้ค่ะ ครีมชีสของฟิลลาเดเฟีย ราคา 150 บาทค่ะ (ทำเองได้เหมือนกันแต่ต้องมีเวลานิดหน่อย วันหลังจะมาทำให้อ่านนะค่ะ) ก่อนทำให้เอามาไว้ที่อุณภมิห้องก่อนนะค่ะ จะได้กวนง่ายๆ

**รวมราคา 393 บาท**

ราคาวัตถุดิบค่อนข้างสูงแต่ถ้าเราเทียบกับไปซื้อเค้าแล้วคุ้มกว่าเห็นๆค่ะ บลูเบอรี่ใส่ได้เต็มที่ไม่เหมือนซื้อเค้าที่มีแป๊ะมาจิ๊ดเดียว สูตรนี้ถ้าแบ่งเป็นถ้วยเล็กๆจะได้ประมาณ 6 ชิ้นค่ะ และวัตถุดิบก็ยังเหลืออีกด้วยค่ะ

วิธีทำ

1. ขั้นตอนคือบดแคร็กเกอร์ค่ะ บางคนอาจแกะออกมาใส่ถุงพลาสติกแล้วทุบ แต่ปรางขี้เกียจค่ะเลยใช้ถุงเดิมนี่แหละ เจาะอากาศออกด้วยเข็มหมุด เจาะให้พรุนไปเลยค่ะเวลาทุบถุงจะได้ไม่แตก เสร็จแล้วเอาไปทุบค่ะ อะไรก็ได้ที่หนักๆทุบให้ละเอียดเลย ปรางใช้ก้นขวดพริกไทค่ะ ทุบให้ละเอียดนะค่ะเพราะมีผลต่อการเกาะตัวฐาน ถ้าไม่ละเอียดก็จะไม่แน่นตักไปก็ร่วนค่ะ

2. ตัดเนยประมาณ 3 ช้อนใหญ่ไปละลายเพื่อทำฐานเค้ก ถ้าใช้ไมโครเวฟก็ตั้งแค่ 20 วินาทีก็พอค่ะ

3. นำแคร๊กเกอร์มาผสมเนยที่ละลายแล้ว คลุกเนยละลายให้ทั่วแคร๊กเกอร์ค่ะ

4. จับอัดให้แน่นในกล่อง ใส่ให้สูงประมาณ 1 ซม. ปรางแนะนำกล่อง 4 เหลี่ยมเพราะกดมุมได้ง่ายกว่ากล่องกลม แต่ก็แล้วความถนัดนะค่ะ เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นสัก 20 นาที แช่ช่องฟรีสไปเลยค่ะเร็วดี ขั้นตอนนี้คือทำเนยที่ละลายแล้วให้แข็งตัวเกาะกับแคร๊กเกอร์ ก็จะได้ฐานกร๊อบๆกรุ๊บกริ๊บ 555+

5. ขั้นตอนการผสมครีมชีสค่ะ  แกะออกมาทั้งห่อเลย แล้วก็ส่ายนมเยอะๆ เอ้าสายนมเยอะๆ ฮิ้ว!! แล้วแต่ความชอบค่ะ ปรางใช้ประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ (กะด้วยสายตา) ถ้าชอบหวานก็ใส่มาก ค่อยๆใส่นะค่ะ ขาดเติมได้ เกินนี่จะหมดอร่อยนะค่ะ 

6. ใส่โยเกิรต์ลงไปทั้งถ้วยเลยค่ะ แล้วใช้ช้อน 2 คัน กวนให้เข้ากันโดนใช้ด้านหลังช้อนกด บี้มันเข้าไปจนแน่ในว่าส่วนผสมเข้าดี

7. 20 นาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก........... เอาฐานแคร็กเกอร์ที่แข็งแล้วมาโปะด้วยครีมชีสค่ะ กะความสูงประมาณ 2 เท่าของฐานแคร๊กเกอร์ค่ะ

8. ขั้นตอนนี้ยากสุด (ประชด) เอาบลูเบอรี่กวนมาโปะอีกชั้นค่ะ อยากได้มากได้น้อยใส่ไปเลยค่ะ กระป๋องหนึงเหลือเพียบ (ปรางใช้แค่ครึ่งเดียว)

9. นั่งมองด้วยความภูมิใจ อิอิ

10. ตักใส่ปากเลยค่ะ รออะไรอยู่ค่ะ 55+

เป็นไงค่ะ ง่ายมากๆ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม.  เพื่อนๆคนไหนทำแล้วเอารูปมาโชว์กันบ้างนะค่ะ หรือมีไรติชมได้ค่ะ แม่บ้านแสนขี้เกียจจะได้ปรับปรุงสูตรใหม่ๆ

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะค่ะ ^_____^

มีอะไรสอบถามได้ที่เพจเย็บผ้าของปรางในเฟสบุคนะค่ะ

https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife