วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทำสุกี้กินเองง่าย และประหยัดมากๆๆ : Thai Suki


ปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้วนะค่ะ อากาศเย็นก็ทุกวัน ปรางเลยมาเสนอเมนูของร้อนให้เพื่อนๆไปลองทำกินคลายหนาวกันค่ะ

เมนูวันนี้แฟนปรางชอบมากๆๆๆๆๆ เอาว่าในช่วง 2 อาทิตย์นี้ทำสุกี้ทานเกือบทุกวัน 555+
ชายสตีฟให้เหตุผลว่า อร่อย ดี มีประโยชน์ และ ประหยัดค่ะ

จัดรูปใหญ่เลยค่ะ เพื่อจะได้อยากทำกันบ้าง 555


ก่อนอื่นต้องมาเลือกน้ำจิ้มสุกี้ก่อนค่ะ  ปรางไม่สามารถทำเองได้เพราะพื้นที่ในห้องครัวแสนจะเล็ก จะโขลกจะตำ เดี๋ยวห้องข้างจะโยนตะหลิวใส่ซะ

น้ำจิ้มของอะไรอร่อย ถามใครได้ พระอาจารย์กูเกิ้ลค่ะ รู้ทุกอย่าง
ปรางก็ลองหาไป เจอมา 3 แบบยอดฮิต ปรางก็ลองใช้มาแล้วทั้ง 3 แบบค่ะ


อันแรกที่ใช้คือ

1. พันท้ายนรสิงค์ สูตรกวางตุ้ง อร่อย กลมกล่อมแต่จะออกหวานไปนิดหนึง ต้องเติมพริกเพิ่มเองค่ะ



2. ซันซอส สูตรพริกกระเหรี่ยง ถูกใจสุด เผ็ดกำลังดีค่ะ ไม่เผ็ดโดดอย่างเดียว ครบรสค่ะ

 

3. พันท้ายนรสิงค์ กวางตุ้ง สูตรพริกกระเหรี่ยง เผ็ดร้อนกว่าซันซอสค่ะ ทั้งหวานและเผ็ด โดยรวมอร่อยค่ะ แต่เผ็ดค่อนข้างโดดค่ะ คือแบบทิ้งรสอื่นไปเลยแซบปากไรงี้

 


มาว่ากันถึงวิธีทำกันดีกว่า วัตถุดิบตามรูปค่ะ



1. ซอสเห็ดหอม
2. น้ำจิ้มสุกี้
3. พริกไทย
4. เนื้อไก่  หรือจะใส่ หมู, กุ้ง, แมว, ม้า ตามใจคนกินค่ะ 5555
5. ไข่ไก่
6. เห็ด
7. ผักกาดขาว
8 ผักบุ้ง

*ผักจะใส่อะไรก็ตามใจคนทานค่ะ ถ้าใส่แครอทหั่นฟอย ก็จะสวยน่าทานขึ้นค่ะ อ้อ วุ้นเส้นด้วยค่ะ วันนี้ไม่มีเพราะลืมซื้อ 5555


วิธีทำ 

1. ต้มน้ำให้เดือดใส่ซอสเห็ดหอมลงไป ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ปรางไม่เคยตวงค่ะ เหยาะแรงสัก 3 ทีก็พอใจ 555+  ตามด้วยพริกไทย สูตรเดียวกันกันเหยาะ 2 ที่ แต่รูเล็ก น่าจะประมาณ ครึ่งช้อนชาได้ค่ะ

หรือถ้ามีซุปก้อน ซุปผงก็ต้มได้เหมือนกันค่ะ

2.  พอน้ำเดือดได้ที่ก็ใส่ไก่ที่หั่นลงไปค่ะ (ไก่ปรางไม่ได้หมักค่ะ ถ้าอยากหมักก็ได้ค่ะ แต่ออกมาก็โดนรสน้ำจิ้มสุกี้กลบอยู่ดี 55 เมื่อก่อนเคยหมักค่ะ)

3. ถ้าไก่สุกแล้วให้ใส่ผักลงไปค่ะ ปรางจะใส่ส่วนที่แข็งลงก่อน เช่น ก้านผักบุ้ง โคนผักกาดขาว  เพราะถ้าใส่ไปพร้อมใบ ใบจะสุกเร็วกว่าและมันจะกลายเปื่อยเป็นต้มจับฉ่ายค่ะ ถ้ามีวุ้นเส้นก็ลงตามผักเลยค่ะ

4.  ตามด้วยไข่ไก่ และ น้ำจิ้มสุกี้ค่ะ จะใส่มากน้อยตามใจคนทานค่ะ


เป็นอันเรียบร้อยค่ะ ตักใส่ถ้วย  สวยๆ ถ่ายรูปลงเฟสบุค 555 ออกมาหน้าตามแบบนี้ค่ะ





วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

D.I.Y กระดุมผ้า วิธีทำกระดุมด้วยตัวเองค่ะ


สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการเขียนบล็อกไปนานเลย กลับมาวันนี้ปรางมีวิธีการทำกระดุมผ้ามาฝากค่ะ

ชุดอุปกรณ์สามารถหาซื้อได้ตามร้านงานฝีมือทั่วไปค่ะ ของปรางซื้อมาจากไดโซ 60 บาทค่ะ มีทั้งหมด 18 เม็ดค่ะ

เอาละค่ะมาดูวิธีทำกันดีกว่า รวดเร็วทันใจภายใน 10 วินาทีแน่นอนค่ะ


าส

อธิบายเรียงจากภาพบนซ้ายมาขวานะค่ะ

1. ก่อนอื่นต้องเตรียมอุปกรณ์ ซื้อมา 1 ชุดจะมีครบอยู่แล้วค่ะ แล้วเราก็มาเตรียมผ้า กับ กรรไกรค่ะ
2. ตัดผ้าเป็นวงกลม ซึ่งในชุดอุปกรณ์จะมีแบบมาให้เลยค่ะ
3. วางผ้าบนแม่พิมพ์แล้วใส่ตัวหัวกระดุมลงไปค่ะ
4. พับผ้าที่เหลือทั้งหมดลงไปในแม่พิมพ์ค่ะ
5. กดตัวปั๊มแรงๆค่ะ กระดุมจะได้แน่นๆ
6 - 7. รูปของกระดุมที่ผ่านการกดแล้วจะติดหนึบอยู่ในแม่พิมพ์ เพื่อนๆก็ค่อยๆแกะออกค่ะ ตัวพิมพ์ของไดโซจะเป็นยางแบะออกได้ค่ะ
8. กระดุมเสร็จเรียบร้อยค่ะ

เห็นไหมค่ะ ไม่ยากแถมรวดเร็วด้วย งานฝีมือง่ายๆมีอีกเยอะค่ะ เด๋วว่างๆจะมาแนะนำใหม่นะค่ะ

ปรางมีเพจเย็บผ้าในเฟสชื่อ https://www.facebook.com/Guna.lazyhousewife เข้าไปเยี่ยมชมกดไลค์เป็นกำลังใจให้ได้นะค่ะ  ^___^

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ธงชาติไทย

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆวันนี้มีความรู้เกี่ยวกับธงชาติไทยมาฝากกัน  ปรางเชื่อว่าคนไทยหลายคนไม่เคยรู้มาก่อน แม่แต่ตัวปรางเองก็เพิ่งรู้เช่นกันค่ะ แต่ปรางเห็นว่าเป็นประโยชน์มากๆเลยนำมาฝากกัน

ที่มาของการศึกษาครั้งนี้ คือ เมื่อวานไปรวมชุมชุมคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม แล้วได้เห็นคนที่รักชาติจำนวนหลายคนมารวมตัวกัน มันทำให้เราต้องย้อนดูตัวเองอีกเยอะเลยค่ะ ว่าเราเคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชาตเราบ้างไหม เราเห็นทั้งคุณลุง คุณป้า คุณตา คุณยาย มานั่งตากแดดตากลม ประชุมกันยันดึก ร้อนก็ร้อน กลางคืนฝนก็ตก ถนนสกปรกมาก แต่พวกเขาก็นั่งทนกันต่อไป

รักเธอประเทศไทย

พอกลับมาบ้านก็ตั้งใจว่าจะศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยให้มากขึ้น เอาไว้สอนลูกหลาน เอาไว้เล่าให้ชาวต่างชาติฟัง ฟังดูแล้วอาจไม่ได้เป็นการทำเพื่อชาติมากนัก แต่ก็ดีกว่าไม่รู้รากเง้าตัวเองซะเลย

ก่อนหน้านี้หลายคนคงเคยได้ยินข่าวที่มีคนโพสรูปมิดีมิงามกับธงชาติไทย แล้วคราวนั้นมันจบลงยังไง ปรางจะอธิบายให้ฟังค่ะ

เอาล่ะมาเข้าเรื่อง ธงชาติกันดีกว่า จะอธิบายเป็นข้อๆนะค่ะ เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ

- ธงชาติ คือ ธงที่แสดงถึงสัญลักษณ์ของประเทศและดินแดนต่างๆ (ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน นิยามคำว่า ธงชาติ ไว้ว่า ธงชาติ น. ธงที่มีความหมายถึงประเทศและชาติใดชาติหนึ่ง)
- ธงชาติไทยที่ในปัจจุบัน เรียกว่า ธงไตรรงค์ ซึ่งมีความหมายแสดงความเป็นเอกราชอธิปไตยของชาติ
- สีต่างในธง คือ สีแดง = ชาติ สีขาว = ศาสนา สีน้ำเงิน = พระมหากษัตริย์
- ธงชาติไทยในปัจจุบันเริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2460 สมัย ร.6
- ธงไตรรงค์ นำมาใช้เพื่อการแก้ปัญหาการชักธงช้างเผือกกลับด้าน และ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 กับฝ่ายสัมพันธมิตร (สีน้ำเงินนี้ยังแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่น ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เป็นต้น)


มาถึงข่าวที่มีผู้ถ่ายภาพมิดีมิงามกับธงชาติไทยนั้น ก็มีการแก้ข่าวออกมาว่าจริงๆแล้วมันคือ ธงทิว ต่างประเทศเรียกว่า Bunting เป็นธงที่ใช้ประดับงานรื่นเริง ที่มีการใช้มาก่อนปี  พ.ศ. 2460 ค่ะ  แต่มีความแตกต่างที่ อัตราส่วนของสีต่างๆในธงค่ะ คือ ทุกสีจะมีอัตราส่วนเท่ากันเรียง 5 แถบ แต่ธงชาติไทยมีอัตราส่วน ส่วนที่เป็นสีน้ำเงินมากกว่าสีอื่นๆค่ะ

ธงทิวที่ขายกันทั่วไป




เมื่อมีความคล้ายคลึงกันขนาดนี้ จึงเป็นเหตุให้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระราชดำริอยากเปลี่ยนไปใช้ธงช้างเผือกเหมือนเดิมอีกครั้ง 


พ.ศ. 2470 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า ธงชาติไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งแล้ว ควรหาข้อกำหนดเรื่องธงชาติให้เป็นการถาวร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระราชบรรทึก พระราชทานไปยังองคมนตรี เพื่อให้เสนอความเห็นของคนหมู่มากว่า จะคงใช้ธงไตรรงค์ดังที่ใช้อยู่เป็นธงชาติต่อไป หรือจะกลับไปใช้ธงช้างแทน หรือจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงลักษณะธงชาติ กับวิธีใช้ธงไตรรงค์อย่างไร ผลปรากฏว่าความเห็นขององคมนตรีแตกต่างกระจายกันมาก จึงมิได้กราบบังคมทูลข้อชี้ขาด ดังนั้นจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระบรมราชวินิจฉัยลงวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ให้คงใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติต่อไป
หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2475 รัฐบาลต่าง ๆ ยังคงรับรองให้ใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติอยู่เช่นเดิม โดยมีการออกพระราชบัญญัติธงฉบับ พ.ศ. 2479 เป็นกฎหมายรับรองฐานะของธงไตรรงค์ และหลังจากเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็นไทยในปี พ.ศ. 2482 รัฐบาลต่าง ๆ ยังคงรับรองให้ใช้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติอยู่เช่นเดิมจนถึงปัจจุบัน โดยมีการออกพระราชบัญญัติธงฉบับ พ.ศ. 2522 เป็นกฎหมายรับรองฐานะของธงไตรรงค์

พัฒนาการของธงชาติไทยโดยสรุป

ภาพธงระยะเวลาการใช้การบังคับใช้ธงลักษณะหมายเหตุ
Flag of Thailand (Ayutthaya period).svg
สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2325
(ธงเรือหลวง)
สมัยอยุธยา - พ.ศ. 2398
(ธงเรือเอกชน)
ใช้เป็นธรรมเนียมสืบมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชธงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแดงเกลี้ยงไม่ระบุว่าใช้ครั้งแรกเมื่อไร
Flag of Thailand (1782).svg
พ.ศ. 2325 - 2360
พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชธงสี่เหลี่ยมพื้นแดง ตรงกลางมีรูปวงจักรสีขาวใช้เฉพาะบนเรือหลวง
Flag of Thailand (1817).svg
พ.ศ. 2360 - 2398
พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยธงสี่เหลี่ยมพื้นแดง ตรงกลางมีรูปช้างเผือกในวงจักรสีขาวใช้เฉพาะบนเรือหลวง
Flag of Thailand 1855.svg
พ.ศ. 2398 - 2459
พระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชบัญญัติว่าด้วยแบบอย่างธงสยาม รศ. 110 [18]
พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 116 [5]
พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 118 [6]
พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129[11]
ธงสี่เหลี่ยมพื้นแดง ตรงกลางมีรูปช้างเผือกเปล่าหันหน้าเข้าหาเสาธงใช้บนแผ่นดินเป็นธงแรก
State Flag of Thailand (1916).svg
พ.ศ. 2459 - 2460
พระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 (ธงราชการ) [11]
พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459[10]
ธงสี่เหลี่ยมพื้นแดง ตรงกลางมีรูปช้างเผือกทรงเครื่องยืนแท่นหันหน้าเข้าหาเสาธงสำหรับราชการ
Flag of Thailand (1916).svg
พ.ศ. 2459 - 2460
พระบรมราชโองการ ประกาศเพิ่มเติมและแก้ไขพระราชบัญญัติธง ร.ศ. 129 พ.ศ. 2459[10] (ในชื่อ "ธงค้าขาย")ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว 9 ส่วน กว้าง 6 ส่วน แบ่งออกเป็นแถบสีแดงกว้างแถบละ 1 ส่วน แถบสีขาวกว้างแถบละ 1 ส่วน แถบสีแดงตรงกลางกว้าง 2 ส่วนสำหรับสามัญชน
Flag of Thailand.svg
พ.ศ. 2460 - ปัจจุบัน
พระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง พระพุทธศักราช 2460[12]
พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2479[16]
พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522[17]
ธงสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 6 ส่วน ยาว 9 ส่วน แบ่งออกเป็นแถบสีแดงกว้างแถบละ 1 ส่วน แถบสีขาวกว้างแถบละ 1 ส่วน แถบสีน้ำเงินขาบตรงกลางกว้าง 2 ส่วนใช้ทั่วประเทศ
ข้อมูลเพิ่มเติมตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ  http://www.t-h-a-i-l-a-n-d.org/thaiflag/newsite/detail.php?id=4

การกระทำอันไม่สมควรต่อธงชาติและบทกำหนดโทษ

ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติและธงของต่างประเทศในราชอาณาจักร พ.ศ. 2529 ข้อ 19 การกระทำต่อธงชาติโดยไม่ให้ความเคารพ มีดังนี้
  • 19.1 การกระทำอันเป็นการเหยียดหยามต่อธงชาติ ได้แก่ การกระทำต่อธงชาติรูปจำลองของธงชาติ หรือแถบสีธงชาติ ด้วยเจตนาเหยียดหยามประเทศชาติ เช่น ฉีกทำลาย ถ่มน้ำลายรด ใช้เท้าเหยียบ วางเป็นผ้าเช็ดเท้า ซึ่งเป็นการแสดงความดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามชาติไทย
  • 19.2 การกระทำที่ไม่สมควรต่อธงชาติ รูปจำลองของธงชาติ หรือแถบสีธงชาติ เช่น
    • (1) การประดิษฐ์รูป ตัวอักษร ตัวเลข หรือเครื่องหมายอื่นในผืนธงรูปจำลองของธง หรือแถบสีของธง
    • (2) การใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีของธงอันมีลักษณะตามข้อ (1)
    • (3) การใช้ ชัก หรือแสดงธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีของธงไว้ ณ สถานที่หรือวิธีอันไม่สมควร
    • (4) การประดิษฐ์ธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงไว้ ณ ที่หรือสิ่งใด ๆ โดยไม่สมควร
    • (5) แสดงหรือใช้สิ่งใด ๆ ที่มีรูปธง รูปจำลองของธง หรือแถบสีธงอันมีลักษณะตามข้อ (4)
การกระทำการต่อธงชาติโดยไม่ให้ความเคารพมีความผิด ต้องระวางโทษตามกฎหมายดังนี้[
  1. กระทำการใด ๆ ต่อธงชาติหรือเครื่องหมายอื่นใด อันมีความหมายถึงรัฐ เพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118)
  2. กระทำการใด ๆ ต่อธงชาติ รูปจำลองของธงชาติ หรือแถบสีของธงชาติ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีข้อ 19.2 ข้างต้น (ข้อความดังกล่าวลอกมาจากพระราชบัญญัติธงอีกทีหนึ่ง) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 มาตรา 53)
  3. ผู้ใดกระทำการกระทำใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการเหยียดหยามต่อธง รูปจำลองของธงชาติ หรือแถบสีของธงชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (พระราชบัญญัติธง พ.ศ. 2522 มาตรา 54)





วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการออกกำลังกาย

สวัสดีค่า ^_____^ วันนี้ปรางมีเรื่องความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการลดน้ำหนักมาบอกเล่าเก้าสิบกันนะค่ะ ข้อมูลทั้งหมดก็ค้นหามาจากพระอาจารย์กูเดิล และหนังสือบางส่วนนะค่ะ

ขอออกตัวก่อนนะค่ะว่าปรางไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายแต่อย่างไร เป็นเพียงผู้ฝักใฝ่ในการออกกำลังกายเพื่อมีรูปร่างที่ดีขึ้น ข้อมูลทุกอย่างที่จะเอามาลงทั้งหมด คือเป็นประสบการณ์จริงที่ตัวเองเจอมานะค่ะ

สิ่งที่จะกล่าวมาต่อไปนี้ ปรางเองก็เคยเชื่อมาก่อนและปรางก็เจอเพื่อนๆหลายคนที่ยังเชื่อความเชื่อผิดๆนี้อยู่ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกันใหม่ดีกว่าค่ะ

Fitness Model Kelsey Byers


ความเชื่อที่ว่า

1.  ผู้หญิงยกเวทจะทำให้มีกล้ามใหญ่ ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงง ที่สูดดดดดดดดดด ปรางยกเวท 40 ปอนด์ทุกวันกล้ามยังแทบไม่โผล่เลยค่ะ ถึงต่อให้ยกมากว่านี้ก็ไม่ใหญ่ค่ะ เพราะผู้หญิงไม่มีฮอร์โมนเพศชายเพียงพอที่จะทำให้เกิดกล้ามปูอัดค่ะ ส่วนที่เราเห็นนักกล้ามหญิงนั้นเค้าฉีดสเตรอยด์กันค่ะ
     ผลจากการยกเวท  ทำให้ปรางลดรอบขนาดต้นแขน 0.5 นิ้ว ภายใน 2 เดือนค่ะ (ถ้าออกกำลังสม่ำเสมอ มีวินัยคงได้ผลเร็วกว่านี้นะค่ะ 555+)

2. การออกกำลังเพื่อลดไขมันฉพาะจุด ฮึๆ ๆ ๆ เชื่อกันมานมนานชิมิ จะบอกว่า ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  การทำเป็นจุดๆคือการทำให้กระชับ แต่อย่าลืมว่าจุดนั้นๆมันมีไขมันอยู่ดังนั้นถ้าไม่เอาไขมันออกแล้วมันจะกระชับได้ไงค่ะ จริงๆแล้วทุกคนมีกล้ามเนื้อทั้งนั้นแต่มันถูกบดบังไปด้วยไขมัน
       ดังนั้นถ้าจะลดไขมัน คือ ต้องทำการออกกำลังกายที่เน้นการเผาพลาญพลังงาน และการเผาพลาญพลังงานนี่แหละจะไปทลายไขมันส่วนต่างๆเอง ซึ่งร่างกายแต่ละคนก็จะมีการทลายไขมันแต่ละส่วนต่างกันบางคนเริ่มที่ขา บางคนที่แขน ขึ้นอยู่ตามพันธุกรรมค่ะ
     ดังนั้นปรางจะขอแบ่งการออกกำลังกายเป็น 2 แบบ คือ 1. สร้างกล้ามเนื้อ  เช่น การยกเวท ท่าบริหารต่างๆ  2. เผาพลาญพลังงาน คือ การวิ่ง ว่ายน้ำ และ จักรยาน เป็นต้น 
     ป.ล. ควรทำสองอย่างควบคู่กันนะค่ะเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง 555+

3.  การหยุดออกกำลังกลายจะทำให้กล้ามเนื้อกลายเป็นไขมัน  ข้อนี้ปวดใจมากๆกับการศึกษาไทย แม่คุณเอ้ย กล้ามเนื้อ กับ ไขมัน ชื่อก็คนละอันแล้ว มันคนละส่วนกันนะค่ะ เหตุผลที่พอหยุดออกกำลังกายแล้วทำให้กล้ามเนื่อหย่อนยานเพราะกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานมันจะลีบลง พอกล้ามเนื้อน้อยลงการเผาพลาญก็น้อยลง และหากเรายังกินอาหารเท่าเดิมแต่ไม่ออกกำลังกายเหมือนเคย การเผาพลาญที่น้อยลงก็จะทำให้ไขมันเพิ่มขึ้นค่ะ 
    ดังนั้นไม่ควรหยุดการสร้างกล้ามเนื้อจะดีที่สุด หรือหากจะหยุดออกกำลังกายก็ควรควบคุมอาหารร่วมด้วยนะค่ะ 

4.  น้ำหนักที่ลดลงหมายความว่าคุณผอมลง ผิดค่ะ ปรางตอนนี้หนักกว่าเมื่อก่อนอีก แต่รอบเอวเล็กลง รอบแขนก็ด้วย เพราะจริงๆแล้วกล้ามเนื้อมีน้ำหนักมากกว่าไขมันและใช้เนื้อที่น้อยกว่าค่ะ 

5. ออกกำลังกายจนรู้สึกเจ็บจะได้ผลมากที่สุด ผิดอีกค่ะ เพราะบางครั้งคือการทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเจ็บปวดหรือถึงขึ้นอักเสบ แล้วมันก็จะตามด้วยความเจ็บป่วยได้ค่ะ  
     ดังนั้นควรทำเท่าที่ร่างกายรับไหว ไม่มากจนเกินไป และการเกิดอาการเมื่อยล้าคือสิ่งปกติค่ะ

ข้อมูลทั้งหมดผ่านศึกษากลั่นกรองมาแล้วนะค่ะ ถ้าสิ่งที่ปรางอธิบายไปแล้วเข้าใจยากก็ขอโทษด้วยนะ 555
       

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

วิธีติดซิลิโคนอ่างล้างจาน + ขอบประตูห้องน้ำ

ช่วงนี้แม่บ้านทำอาหารทุกวัน ทุกมื้อ เลยทำให้เจ้าอ่างล้างจานทำงานหนักเกินไป ซิลิโคนกันน้ำซึมเริ่มเสื่อมสภาพ น้ำซึมไปรอบๆไม้ข้างๆเริ่มบวม โอ่ย ตายๆๆๆ งวดนี้หนูจะโดนกี่บาทค่ะเนีย

โชคดีที่พระอาจารย์กูเกิ้ลทำงานตลอด 24 ชม. มีปัญหาเมื่อไรก็เชคได้ตลอด ปรางก็หาข้อมูลดู แต่ข้อมูลที่ได้ส่วนมากคือการยิงซิลิโคน ซึ่งตัวซิลิโคนไม่แพง แต่ตัวปืนยิงสิค่ะ

วันรุ่งขึ้นก็ออกเดินไปตามร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ได้คำตอบว่าไปหาซื้อกาวซิลิโคนที่ใช้กับขอบตู้ปลาก็ได้หลอดละ 100 กว่าบาท จะได้ไม่ต้องซื้อปืนกาวเปลืองเงินเปล่าๆ


ส


พอได้คำตอบก็แจ้นไปเดอะมอล์ ไปเจอกับเจ้าตัวนี้ค่ะ ราคา 160 บาท มีให้เลือกตั้งแบบใส และ สีขาว ตัวนี้สีขาวค่ะ ถ้าจะไม่ผิดหลอดสีเขียวจะเป็นสีใสค่ะ



เส
พอได้มาก็ต้องเอามาประกอบร่างกันก่อนออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

อวง
จัดการลอกซิลิโคนอันเก่าที่เสื่อมสภาพออกไปเลยค่ะ ทำความสะอาดอย่าให้มีสิ่งสกปรกนะค่ะ

แษ
หยอดซิลิโคนไปรอบๆอ่างค่ะ ทำทีละข้างนะค่ะ
สมส
ตัดกระดาษเป็นมุมฉาก มารูดขอบให้สวยงามค่ะ

อวง
เอาทิชชู่รูดอีกรอบ ไม่ไต้องดันซิลิโคนนะค่ะ แค่รูดให้เรียบพอ
มแว
เสร็จเรียบร้อยก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ ปล่อยไว้สัก 1 ชม. ค่อยใช้งานค่ะ

มาต่อกันที่ขอบประตูห้องน้ำเลยค่ะ วิธีการเดียวกันเลยค่ะ เช็ดฝุ่นออกให้หมดก่อนค่ะ


แาอ
ขอบประตูหลุดออกมาทั้งแท่งเลยค่ะ

แษ้
เช็ดฝุ่นแล้ว ฉาบซิลิโคนลงไปเลยค่ะ

สแส
ทำการรูดขอบเหมือนอ่างล้างจานค่ะ หน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

วิธีล้างแอร์บ้านด้วยตัวเองและการแก้ปัญหาน้ำแอร์หยด

วันนี้แม่บ้านแสนขี้เกียจมีวิธีล้างแอร์บ้านด้วยตัวเองมาเสนอค่ะ วิธีนี้ทำมาแล้ว 3 ครั้งก็ไม่เห็นแอร์พังสักที เลยคิดว่าน่าจะทำถูกแล้วและคงเป็นประโยชน์กับคนอื่นด้วย  จริงๆคือ ปรางศึกษาวิธีเองจากยูทูป เวปต่างๆมาค่ะ ไม่ได้เก่งเลิศมาจากไหนหรอกค่ะ อิอิ

ผู้หญิงล้างแอร์ฟังดูไม่สวยงามเลยใช่ไหมค่ะ แล้วจะแคร์ทำไมในเมื่อเราก็ไม่สวย 555555 (ขำใส่หน้าตัวเอง)  โลกมันเปลี่ยนไปแล้วค่ะ แม่บ้านสมัยใหม่อย่างเราก็ต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองล้าหลังนะค่ะ อาชีพแม่บ้านคือ อาชีพเจ้าของบ้าน 5555 ดังนั้นต้องดูแลทุกอย่างในบ้านให้ได้หมดทุกเรื่องนะค่ะ

าวม
น้ำแอร์หยดแบบนี้ค่ะ

เหตุที่เริ่มศึกษาการล้างแอร์บ้านด้วยตัวเอง คือ แอร์ที่ห้อง 2 ตัว 1 ตัวไม่เย็น อีก 1 ตัวน้ำหยดตลอดวัน ค่าไฟก็แพงขึ้น!!!  ทำไงดีไม่อยากเสียเงิน เด๋วนี้ล้างแอร์ครั้งละ 500-700 บาท แถมช่างมาล้างก็ไม่ค่อยสะอาด! 

พอเริ่มหาข้อมูล เฮ้ย! ง่ายมาก อุปกรณ์ก็ไม่เยอะ ก็ใส่เกียเดินหน้าเต็มที่เลยค่ะ

เอาล่ะมาดูอุปกรณ์ที่ว่าง่ายกันเลย
1. ถุงพลาสติก 2  ใบ เล็ก 1 ใหญ่ 1 + ตัวหนีบผ้า 2 อัน
2. แปรงสีฟันอันเก่า
3. ที่ฉีดน้ำ
4. หลอดดูดน้ำ หรือ สลิงฉีดน้ำ อะไรก็ได้ที่ใช้หยอดน้ำได้ค่ะ
5. น้ำยาไฮเตอร์ เอาไว้ล้างท่อแอร์ค่ะ
6. คัตตอนบัท เอาเชคความสกปรกของท่อน้ำแอร์ค่ะ
7.  ไขควง

วิธีทำนะค่ะ
ก

 1. ปิดแอร์ และ คัทเอ้าให้เรียบร้อยก่อนค่ะ แล้วค่อยจัดการเปิดผาครอบแอร์ออกค่ะ ด้านข้างจะมีมุมให้จับและเปิดขึ้นค่ะ

ฟ

2.  ดึงตะแกรงที่กรองอากาศออกค่ะ เวลาเอาออกให้ยกดันไปด้านหลังนิดหน่อยแล้วค่อยดึงค่ะ ตัวตะแกรงเป็นพลาสติกอ่อนๆ ดันได้ไม่หักค่ะ

ม

3. เอาออกมาหน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ ฝุ่นเกาะขนาดนี้จะเย็นได้ไง 5555 เอาไปล้างเลยค่ะ ฉีดน้ำแปรงขัดเบาๆ แล้วตากไว้ให้แห้งสนิท

ฝสิ

4. มาต่อที่ตัวเครื่องนะค่ะ ไขน็อตตัวฝาครอบอีกชั้น น๊อตจะมี 2 ตัวนะค่ะ จะอยู่ช่วงตะแกรงของสองข้างแบบในรูป น๊อตตัวขวาสุดเป็นหมอแปรงไม่ได้ไขนะค่ะ

ส

5. เมื่อไขน๊อตเสร็จแล้วจัดการถอดเลยค่ะ สังเกตเห็นน๊อตตัวขวาสุดไหมค่ะ ตัวนั้นไม่ต้องไปยุ่งกับมันเลยค่ะ

ว

6.  ถอดฝาครอบเสร็จก็ถอดตะแกรงใบพัดด้านล้างออกมาล้างด้วย แต่ถ้าไม่สกปรกก็ไม่ถอดก็ได้ค่ะ


ค

7. หน้าตาของแอร์ที่ถูกถอดออกจะเป็นแบบนี้ค่ะ

ม้าส

8. เอาถุงใบเล็กครอบหม้อแปลงไว้กันน้ำเข้าค่ะ ส่วนถุงใบใหญ่ให้เอาตัวหนีบผ้าหนีบรองให้ใต้เครื่องกันน้ำเปื้อนผนัง แต่รอบนี้ปรางไม่ได้ใช้เพราะฝุ่นที่เครื่องไม่เยอะเลยไม่กลัวเปื่อนมากค่ะ

ฟเ

9. ฉีดน้ำตรงที่มีฝุ่นเกาะเยอะๆ เพราะจะทำให้ฝุ่นอ่อนตัวขัดออกได้ง่ายค่ะ

ว

10. จัดการขัดมันค่ะ ตามซี่ตะแกรงเหมือนแปรงฟันเลยค่ะ อย่าลืมถ้าต้องฉีดน้ำเยอะควรเอาถุงรองใต้แอร์เพื่อให้น้ำไหลลงมาเป็นทางเดียวกันนะค่ะ

รมา

11. ขัดเสร็จแล้วมาจัดการท่อแอร์ต่อ ท่อจะอยู่ใต้หม้อแปลง บางรุ่นดึงง่าย บางรุ่นต้องออกแรงเยอะๆ ของปราง 2 ตัวในห้อง ยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่น เวลาดึงออกแรงยังไม่เท่ากันเลยค่ะ

สแาส
เพิ่มคำอธิบายภาพ
12. เอาล่ะมาเชคดูสิมาท่อแอร์สกปรกมากแค่ไหน อี้ๆๆๆๆๆๆๆ ตามนั้น แหย่ไปจิ๊ดเดียว ไหลออกมาเต็มเลย ดังนั้นควรมีถุงมารอง อย่าขี้เกียจแบบหนูนะค่ะ 5555

าสา

13.  มาต่อกันที่การล้างท่อ ไฮเตอร์ธรรมดานี่แหละค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมแต่เห็นเค้าใช้กันก็ลองดู สรุปแอร์หายตันไปเลยค่ะ การหยอดขึ้นอยู่กับท่อด้วย ของปรางตัวนอกห้องนอนใช้หลอดหยอดได้เพราะต่อมันตั้งหยอดไปมันก็ลงไปเอง แต่ตัวในห้องต้องฉีดเข้าไปเพราะท่อมันราบหยอดไปไม่ไหลเข้าค่ะ

แสิ้

14. ประกอบทุกส่วนเข้าไปเหมือนเดิมเป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ


ง่ายนิดเดียวเห็นไหม อิอิ แถมเหลือเงิน 500 ไปช๊อปปิ้งอีก ลองทำดูนะค่ะ แต่.....ถ้าแอร์ที่บ้านอาการหนักมากก็เรียกช่างเอาเถอะนะค่ะ  

สำหรับวันนี้ บ๊ายยยยยยย  ^_____________^


วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

อโวคาโดแซนวิส + วิธีการปลอกอโวคาโดค่ะ

Healthy fast food : ตอน แซนวิส อโวคาโด :Avocado sandwich

มื้อนี้เกิดขึ้นจากการเริ่มสรรหาอาหารที่มีประโยชน์ และได้ค้นพบว่าเจ้าอโวคาโดนี่ มันมีดีจริงๆ แต่ซื้อมาแล้วก็ต้องงงกับการปลอกและการประกอบอาหารอยู่สักพัก เมื่อวานก่อนไปฟูดแลนด์เลยไปหยิบมา 1 ลูก ราคา 59 บาทค่ะ

ลองหาข้อมูลสักพักก็เจอสูตรนี้ที่เรียบง่าย ง่ายจนไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้ 55 (แล้วแต่คนชอบนะ)

เอาล่ะมาเริ่มกันที่วิธีปลอกกันก่อนเลยนะค่ะ


k

1.  ผ่าครึ่งตามแนวยาวของผลนะค่ะ วนมีดไปรอบๆ เพราะเราไม่สามารถผ่ามันออกเลยได้มันจะติดเม็ดข้างใน ผ่าให้ถึงเม็ดนะค่ะ หลังจากนั้นบิดชิ้นบน ล่าง ออกจากกัน
2. เอาปลายมีดแทงเข้าไปที่เม็ดผลอโวคาโดแล้วงัดเลยค่ะ เม็ดจะดูแข็งแต่จริงๆไม่เลยค่ะ
3. ผ่าครึ่งตามรูปเลยค่ะ
4. ลอกเปลือกออก บางคนจะใช้ช้อนขูดแต่สารอาหารจะมีมากก็ตรงสีเขียวที่ติดกับเปลือกค่ะ ดังนั้นเก็บมาไว้ให้มากที่สุด
5.  สไลดหนา บางตามชอบค่ะ การหั่นแบบนี้เหมาะกับใส่ในแซนวิสกับตกแต่งอาหารค่ะ ถ้าใส่สลัดจะทำแบบหั่นเต๋า วันหลังจะทำให้อ่านนะค่ะ


ส่วนประกอบอโวคาโดแซนวิส

1. ขนมปังโฮลวีท whole wheat bread
2. มายองเนส ถ้ากลัวอ้วนก็แบบไขมันต่ำได้ค่ะ แต่ปรางชอบแบบธรรมดา การควบคุมอาหารของปรางไม่ได้ตัดทุกอย่างที่ไม่มีประโยชน์เพราะถือว่าความสุขจากกินเป็นสุขที่ประเสริฐมากๆ 5555555555+
ดังนั้นก็ต้องอาศัยการออกกำลังกายสม่ำเสมอแทนค่ะ  mayonnaise
3. อโวคาโด avocado
4. มะเขือเทศ  tomato
5. กรีนโอ๊ค หรือ ผัดใบเขียวที่ใส่สลัดแบบที่่ชอบค่ะ   Lettuce

วิธีทำอันแสนง่าย 


s
1. หั่นผักตามรูปเลยค่า
j
2.  ทามายองเนสบนขนมปังและจัดการโป๊ะผักลงไปเลยค่ะ


i
3. ผ่าครึ่งพร้อมทานค่ะ

เห็นไหมค่ะง่ายมากๆๆๆๆๆ อร่อยด้วยนะไม่เชื่อลองดูค่ะ ^___^


พิซซ่าไข่ อาหารเช้าเมนูสำหรับไมโครเวฟ

Healthy fast food : ตอน พิซซ่าไข่

เมนูวันนี้เป็นเมนูไข่ที่ปรางชอบทำให้แฟนกินตอนเช้าเพราะทำง่าย รวดเร็ดและรสชาติดีค่ะ

ในไข่มีโปรตีนสูง คุณแฟนชอบกินมากๆ เวลากินอาหารเค้าก็จะสั่งไข่เจียวทุกมื้อ แต่ด้วยความที่เราทั้งสองกำลังปรับปรุงนิสัยการกินใหม่เลยต้องพยายามงดอาหารประเภททอดค่ะ

เพื่อนๆคนไหนที่กำลังมองหาอาหารเพื่อการควบคุมน้ำหนักลองเอาไปทำดูนะค่ะ ปรางไม่ใช่กูรูด้านนี้แต่จากที่ทำกินเองก็คิดว่าช่วยได้เยอะค่ะ


อาหารเช้าเพื่อสุขภาพค่ะ อิอิ


ส่วนประกอบ
1. ไข่ไก่ 3-6 ฟอง ตามชอบและจำนวนคนกินนะค่ะ แต่ปรางจะใช้ไข่ 3 ฟองเขียนอธิบายนะค่ะ
2. หอมใหญ่ หั่นเต๋า
3. พริกหวานสีต่างๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
4. พริกไทย
5. เกลือ
6. ซอสมะเขือเทศ
7. ออริกาโน่

วิธีทำ
egg

1. ตอกไข่ทั้งหมดใส่กล่องก้นแบบ แบบกลมหรือเหลี่ยมก็ได้ค่ะ ถ้วยก็ได้แต่ถ้าก้นลึกจะออกมาไม่เป็นแผ่นแบบพิซซ่า

e

2. ใส่เกลือและพริกไทและตีไข่ให้เข้ากัน

j

3.  โรยพริกหวานและหัวหอมลงบนไข่ไม่ต้องตีให้เข้ากันนะค่ะ เพราะถ้าพริกจมลงไปจะดูไม่สวย และเอาเข้าไมโครเวฟสัก 2.30 นาที ความร้อนที่ 600 วัตต์ หรือถ้าไม่รู้ระดับความร้อนก็ใส่ไปก่อน 2 นาทีแล้วค่อยเอาออกมาดู ไม่สุกก็เวฟต่อไปอีกสัก 1 นาที


b

4.  เมื่อเอาไข่ออกมาจะมีหน้าตาเหมือนพิซซ่า ไข่ที่สุกแล้วเนื้อจะแยกออกจากก้นกล่องเอง อาจมีติดนิดหน่อยก้เอาช้อนแงะออกมาเลยค่ะ

n

5.  หั่นพิซซ่าไข่ตามใจชอบเลยค่า อยากตัดเป็นทรงไหนก็เอาเลยค่ะ ทำเองกินเอง อร่อยเอง 555
จากนั้นราดซอสมะเขือเทศและออริกาโน่เป็นอันเสร็จพิธี


ง่ายมากๆใช่ไหมค่ะ ลองทำดูนะค่ะ อร่อยรวดเร็วเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและชีวิตที่รีบร้อนอย่างอิฉันจริงๆ